เรือดำน้ำ 6 ก.ย.63 วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประจำสายทหาร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.เพื่อไทย ยังยืนยันว่า สัญญาซื้อเรือดำน้ำลำแรก กับ CSOC จีน เป็น G to G เก๊ และจะฟ้อง ปปช. ทั้ง ผบ.ทร. พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบโต้ ที่ ผบ.ทร.สั่งฟ้องหมิ่นประมาท ว่า
คนเขาไม่รู้ เรื่องนี้ ไม่สามารถนำมาเทียบกับ การซื้อเรือดับเพลิง ของ กทม. ที่ นายยุทธพงศ์ ระบุถึงได้ เพราะนี่เป็นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ อาวุธเชิงยุทธศาสตร์ ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ที่มีกฎระเบียบทางราชการของ กระทรวงการต่างประเทศ และ สำนักอัยการสูงสุด และ กลาโหม ต้องผ่านหลายขั้นตอน กว่าเขาจะอนุมัติให้ ทร. ไป ดำเนินการเซ็นสัญญาได้
“นั่นเป็น ความเข้าใจไปเอง ของเขา คือ ปัญหาของเขาเอง เพราะ นี่มันเป็นการ ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ มันมีขั้นตอนของมัน ไม่ใช่ซื้อของปกติ การจัดซื้อจ้างยุทโธปกรณ์ มีข้อกำหนดกฏหมายนานาชาติ ด้วย ให้เขาไปรู้ในศาล แล้วกัน” โฆษกทร.ระบุ
ทั้งนี้ ทร.ได้แถลงชี้แจง ไปเมื่อ 24 สค. แล้ว เริ่อง บริษัท CSOC ที่เป็นคู่สัญญาต่อเรือลำน้ำS26T ลำแรก ให้ทร. ว่า เป็น บริษัท ที่อยู่ในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกลาโหมจีน และเป็นการต่อเรือดำน้ำ ซึ่งเป็น อาวุธทางยุทธศาสตร์ ความมั่นคง ที่ต้องเป็นของกลาโหมจีน
โดยรัฐบาลไทยได้ มอบอำนาจในการลงนามในข้อตกลงของรัฐบาลไทย ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 โดยอนุมัติให้ ผบ.ทร.ในขณะนั้น เป็นผู้แทนไปลงนามระหว่างรัฐบาล
หลังจากนั้น ผบ.ทร. ได้มอบอำนาจให้ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ในขณะนั้น เป็นผู้แทน ผบ.ทร.ไปลงนามในข้อตกลง
ขอบคุณข้อมูล วาสนา นาน่วม