วันที่ 11 ตุลาคม นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง การเมืองใหม่ หรือ เก่า สาดสี กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 5,260 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 1 มิถุนายน – 10 ตุลาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา
กรุงเทพโพลล์ เผย เรื่องที่ทำให้คนไทยมีความสุขมากที่สุด ในช่วงวิกฤต โควิด19
น้ำท่วมนี้! นิด้าโพล เผย คนกรุงเทพไม่ปลื้ม การจัดการระบายน้ำ ในกรุงเทพ
เมื่อถามถึง การเมืองของพรรคการเมืองต่าง ๆ วันนี้ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.3 ระบุเป็นการเมืองเก่า เพราะ นำมวลชนลงถนน เคลื่อนไหวนอกสภา จ้องโค่นล้มรัฐบาล ไม่สนใจ ว่าจะซ้ำเติมวิกฤตชาติและทุกข์ยากของประชาชน ขอให้พรรคพวกตนขึ้นมีอำนาจ ปล่อยต่างชาติเข้าแทรกแซงสั่นคลอนประเทศ ยังไม่มีผลงานแต่จะเข้ามาทำงาน กลุ่มการเมืองระดมทุนบริจาคจากประชาชนไปช่วยเหยื่อโควิดแต่เอาไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟกักเก็บไว้จ่ายประชาชนไม่หมด ยังเห็นการทำงานการเมืองแบบเดิม ๆ ในขณะที่ ร้อยละ 6.7 ระบุเป็นการเมืองใหม่ เพราะ มีคนรุ่นใหม่ นโยบายใหม่ มาตรการใหม่ สถานการณ์ใหม่ช่วงโควิด-19 มีประเด็นใหม่ ใช้เทคโนโลยีโซเชียลมีเดียทำงานการเมือง เป็นต้น
ซูเปอร์โพล เผยเดือนต.ค.ปชช.สำนึกรู้คุณรักษาไว้ในความทรงจำภาพของในหลวง ร.5- ร.9
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อเปรียบเทียบแนวโน้ม ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง ต้นตุลาคม 2563 ต่อพรรคการเมืองที่ตั้งใจจะเลือกตั้ง ถ้าวันนี้เลือกตั้ง พบว่า ในเดือนมิถุนายน พรรคอันดับหนึ่งได้แก่ พรรค ก้าวไกล (อนาคตใหม่เดิม) ร้อยละ 11.7 และเพิ่มขึ้นอีกในเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ร้อยละ 13.0 แต่ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ปลายเดือนกันยายน จนถึงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สัดส่วนของผู้ตั้งใจจะเลือกพรรคก้าวไกล หรือ อนาคตใหม่เดิม ร่วงหล่นลงมาตามลำดับจากร้อยละ 13.0 ในเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ในต้นเดือนกันยายน ร้อยละ 2.4 ในปลายเดือนกันยายน และร้อยละ 1.2 ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ช่วงเดือนมิถุนายนอยู่ที่ร้อยละ 10.8 เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ร้อยละ 9.3 ต้นเดือนกันยายนอยู่ที่ร้อยละ 5.4 ปลายกันยายนอยู่ที่ร้อยละ 2.3 แต่ ต้นตุลาคมขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.9