ปลัด ทส. สั่งย้าย ธวัชชัย ลัดกรูด ประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ไปเป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ยืนยันไม่มีใบสั่งการเมือง อ้างย้ายไปดีขึ้น
วานนี้ (2 ก.พ.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงนามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 (ผู้อำนวยการสำนัก) ของกรมต่างๆ จำนวน 21 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งสำคัญ
นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) เป็นเพื่อนคณะวนศาสตร์รุ่น 47 ของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไปเป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) นายสุเมธ สายทอง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.จันทบุรี เป็น ผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 6 กรมทรัพยากรน้ำ นายสวัสดิ์ อั้นเต้ง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ลพบุรี ไปเป็น ผอ.สำนักบริหารกลาง กรมทรัพยากรน้ำบาดาล นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ผอ.กองการบิน สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯไปเป็น ผอ.กองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ นายเวทิน พุ่มอินทร์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เพชรบูรณ์ ไปเป็น ผอ. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโยกย้ายดังกล่าวได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส.ปารีณา และคดียังไม่เสร็จสิ้น โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวว่า การย้ายนายธวัชชัยครั้งนี้ เพราะอธิบดีกรมป่าไม้ขอมา ต้องการให้นายธวัชชัยไปคุมสำนักฯที่อุดรธานี ถือว่าได้ตำแหน่งที่ดีขึ้น การเป็น ผอ.สำนักฯดีกว่าเป็นผู้ตรวจฯอยู่แล้ว ไม่อยากให้เป็นประเด็นและไม่เกี่ยวกับการทำคดีของ น.ส.ปารีณา และการโยกย้ายดังกล่าวไม่กระทบกับคดีแน่นอน เพราะอธิบดีกรมป่าไม้คุมคดีเอง
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การย้ายนายธวัชชัยเป็นไป ผอ.สำนักฯที่อุดรธานี ถือว่าได้ตำแหน่งที่ดีขึ้น ได้คุมกำลังหลัก มีงบประมาณ มีลูกน้องและได้พูดคุยกันก่อนที่มีการโยกย้าย ไม่เกี่ยวกับคดี น.ส.ปารีณา หรือมีใบสั่งทางการเมือง นายธวัชชัยยังเป็นประธานในการทำคดี น.ส.ปารีณาเหมือนเดิม การไปเป็น ผอ.สำนักฯที่อุดรธานี เมื่อเทียบกับตำแหน่งผู้ตรวจฯ สังคมอาจจะมองว่าเป็นผู้ตรวจฯดีกว่า แต่ที่จริงแล้วการเป็น ผอ.สำนักฯ ย่อมดีกว่าตำแหน่งผู้ตรวจฯ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของคดี น.ส.ปารีณา ที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ขณะนี้รอคำตอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีคำวินิจฉัยออกมา ถ้าให้รื้อถอนกรมป่าไม้ก็พร้อมจะรื้อถอนและดำเนินคดีรุกป่ากว่า 682 ไร่ที่เหลือได้ทันที นอกจากนี้ ตนมีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อประสานในเรื่องคดีความของ น.ส.ปารีณา กับหน่วยงานต่างๆ เช่น ตำรวจ และอัยการ รวมทั้งช่วยเหลือเรื่องคดีของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ถูก น.ส.ปารีณาฟ้อง โดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ไปบุกรุก มีนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เป็นประธาน ยืนยันคดี น.ส.ปารีณา ไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงให้ย้ายนายธวัชชัยอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ กับตำแหน่ง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ แม้จะอยู่ในระดับ 9 เหมือนกัน แต่ความสำคัญแตกต่างกัน โดยผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ สามารถตรวจราชการทั่วประเทศ เป็นรองแค่ตำแหน่งรองอธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมป่าไม้เท่านั้น ซึ่งนายธวัชชัยเคยดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักฯมาแล้วหลายแห่งขยับขึ้นเป็นผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ได้เพียงปีเศษ ก่อนหน้านี้กรมป่าไม้เปิดรับสมัครบุคคลรับ การคัดเลือกรองอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งนายธวัชชัยก็เข้ารับสมัครด้วย แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก กระทั่งถูกโยกย้ายไปเป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (อุดรธานี)
อ่านข่าว Bright Today