รัฐประหาร จากกรณีนายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร เลขาธิการ ศปปส. พร้อมสมาชิกเครือข่ายฯยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่าน นายสุภรณ์ อุตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มี การชัตดาวน์ประเทศ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งในขณะนี้ นั้น
ล่าสุด นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเข้าข่ายการยุยงปลุกปั่น ให้มีล้มล้างการปกครองของประเทศ ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 49 ที่บัญญัติว่า “บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้”
และอาจมี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ (1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ประกอบมาตรา 84 ผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วานหรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด ผู้นั้นเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด
จึงไม่อยากให้ประชาชนคนไทยมีทัศนคติสนับสนุนแนวความคิด การใช้กำลังทางทหารแก้ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดของคนในชาติ ด้วยวิธีการก่อรัฐประหาร เพื่อนำประเทศไปสู่การปกครองของเผด็จการ ซึ่งเป็นการนำพาประเทศถอยหลังเข้าคลอง และจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองอย่างมากมาย เพราะปัญหาของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น จะต้องแก้ไขตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง คปส.ยื่นจม.ถึงนายกฯ เสนอ ชัตดาวน์ประเทศ แก้ปัญหาประเทศ ย้ำไม่ได้เสนอให้ทำรัฐประหาร
ขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนที่รักประชาธิปไตยได้ลุกขึ้นต่อต้านการทำรัฐประหาร และประณามข้อเรียกร้อง หรือการสนับสนุนของกลุ่มการเมืองกลุ่มใด ๆ ที่กำลังจะทำให้ประเทศกลับไปสู่การปกครองของเผด็จการอีกครั้งหนึ่ง เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเท่านั้น ที่เป็นการปกครองที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับการปกครองของประเทศไทยมากที่สุด