ธรรมนัส — เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เปิดเผยถึงความคืบหน้า คำร้องกรณีตรวจสอบจริยธรรมร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง ส.ส., และรัฐมนตรี หลังร.อ.ธรรมนัสเคยต้องคำพิพากษาในคดียาเสพติดของศาลออสเตรเลีย ซึ่งทำให้มีการร้องเรียนว่า ร.อ.ธรรมนัสขาดคุณสมบัติและละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
ทั้งนี้ คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงได้มีการตรวจสอบคำร้องแล้วเห็นว่า ในส่วนของคดียาเสพติดนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไปแล้ว ประกอบกับเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ รอ.ธรรมนัส จะดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่ง
ธรรมนัส ลั่นห่วงพี่น้องชาวจะนะ แต่ไม่มีอำนาจช่วย – ไม่ก้าวล่วงรบ.
นอกจากนี้ คดีดังกล่าวยังเกิดขึ้นก่อนที่มาตราฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ จะมีผลบังคับใช้ จึงไม่เข้าข่ายกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งแตกต่างจากกรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่กระทำมาก่อนหน้านี้และยังทำในระหว่างที่เป็น ส.ส. ดังนั้นคำร้องดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายที่จะเสนอคณะกรรมการป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องกรณีดังกล่าว
ป้อมขู่วางมือ ยื้อ ธรรมนัส ลาออกรอประชุมพรรค ลั่นถ้าไม่เลิกทะเลาะกันผมลาออก
ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสถูกกล่าวหาว่าเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และภริยามีการถือครองหุ้นเกิน 5% และการไต่สวนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเชิงลึก ด้านเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ จ.พะเยา และจังหวัดทางภาคเหนือที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยได้ตรวจสอบหุ้น โรงแรม และทรัพย์สินอื่นๆ มีการทำงานตลอดเวลา ไม่นิ่งนอนใจ แต่มีปัญหาเกี่ยวกับการลงพื้นที่พร้อมกันไม่ได้ เพราะหลายหน่วยงานมีการทำงานที่บ้าน (Work From Home) แต่คดียังคงเดินต่อ เรียนว่าจะเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2565
บิ๊กป้อม ลั่นผมไม่รู้ ปัดนัด ‘บิ๊กตู่-ธรรมนัส’ เคลียร์ใจอีกรอบที่ บ้านป่ารอยต่อ พร้อมถามใครบอก