30 มี.ค.64 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รองผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญา ม.112 กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กบรรยายหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย” เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเนื้อหาวิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลที่มีความล่าช้า และตั้งข้อสังเกตถึงการถ่ายโอนเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซนเนกามายังบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์
นายธนาธร ยอมรับว่าไม่มีความกังวล และยืนยันว่าหากกลับไปฟังการอภิปรายจะไม่มีข้อความใดที่ละเมิดข้อหานี้เลย ส่วนกรณีกระทรวงเศรษฐกิจเพื่อดิจิตัลและสังคม(ดีอีเอส) ได้ขออนุญาตศาลให้ถอดเฟซบุ๊กไลฟ์นั้น ศาลชั้นต้นตัดสินให้คงคลิปไว้ได้ ส่วนการแจ้งข้อหาวันนี้ ก็อยู่ที่ตำรวจว่าจะพิจารณาอย่างไร เพราะตนมีเจตนาดีต่อสังคม สิ่งที่พูดไว้เมื่อ 2 เดือนก่อนเป็นจริงในตอนนี้ หากพึ่งบริษัทใดบริษัทหนึ่งมากเกินไป ก็อาจเป็นความเสี่ยงต่อสังคม
สำหรับสถานการณ์เกี่ยวกับวัคซีนตอนนี้แบ่งเป็นเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง จัดหา และเรื่องการฉีด เพราะเรามีวัคซีนค้างสต็อกกว่า 1 ล้านโดสที่ยังไม่ฉีด ฉีดไป 1.5 แสนเข็มตั้งแต่ปลายเดือนก่อนถึงตอนนี้ ตกวันละ 5,000 โดส แสดงว่าไม่มีประสิทธิภาพในการฉีด หากจะหมด 1 ล้านโดส ต้องใช้เวลา 200 วัน จึงจะหมดสต็อก หากไม่พูดไม่ตรวจสอบประชาชนคงไม่ทราบ เหตุใดไม่รีบกระจายไป ในเมื่อมีวัคซีนในมือ กระบวนการทั้งหมดมีปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดึงสถาบันมาปกปิดความผิดของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า การถูกหมายเรียกในวันนี้จึงไม่เหนือความคาดหมาย ไม่มีหลักฐานอะไรต้องนำมาชี้แจง เพราะตนบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีประเด็นอะไรที่ก้าวล่วง