นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า และสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง พรัอมด้วยว่าที่ทีมผู้สมัครสมาชิกสภาจังหวัดระยอง คณะก้าวหน้า เดินทางพบปะพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาจับจ่ายซื้อของ ตลาดประมงพื้นบ้านสวนสน ตลอดทางมีผู้เข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก เมื้อวันที่ 23 สิงหาคม 2563
เยาวชนปลดแอก ชี้ กรณี เรือดำน้ำ ให้ความสำคัญกองทัพมากเกินจำเป็น
โดย นายธนาธร สอบถามพ่อค้าแม่ค้าถึงสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งหมดตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก เพราะแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เลย โดยในช่วงของการระบาดโควิด-19 ตลาดแห่งนี้ต้องปิดการค้าไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายจึงกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง
แต่ทว่าผู้คนก็ยังไม่กลับมาคึกคักเหมือนแต่ก่อน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังพอมีรายได้ เพราะเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาบ้าง เมื่อเกิดเหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิดตามที่เป็นข่าวใหญ่ สถานการณ์ก็กลับมาย่ำแย่อีกครั้ง นักท่องเที่ยวหายหมด ไม่มีลูกค้า คนระยองไปที่ไหนก็ถูกรังเกียจ ธนาธรได้พูดคุยให้กำลังใจ และซื้ออาหารทะเลของพ่อค้าแม่ค้าด้วย
จากนั้น นายธนาธรและทีมงานเดินทางต่อไปที่ท่าเรือสหกรณ์ประมงบ้านเพ เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ โดยมีตัวแทนชาวประมงกว่า 10 ชีวิต ร่วมสะท้อนปัญหาท่ามกลางเรือประมงพาณิชย์ที่จอดเรียงราย มีป้ายติดประกาศขายและให้รัฐบาลมาช่วยซื้อไป
องอาจ ขอให้รัฐบาลทบทวนการจัดซื้อ เรือดำน้ำ ต้องยอมรับความจริง เศรษฐกิจแย่
นิติภูมิธณัฐ ลั่นกลางเฟซบุ๊ก “ผมต่อต้านซื้อ เรือดำน้ำ” – ชาวเน็ตจวกนายกฯ
เนื่องจากชาวประมงเรือพาณิชย์นั้นประสบปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการทำประมงที่เข้มงวดและมีโทษรุนแรงมาก รวมถึงสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานประมง ที่กว่าจะได้แรงงานต่างชาติมาทำงานนั้นมีค่าใช้จ่ายต่อคนสูง และเมื่อแรงงานมาทำงานแล้วทำได้ไม่นานก็กลับประเทศไป การจะหาคนใหม่ก็ยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอีก ธนาธรเห็นด้วยกับชาวประมงว่า กฎหมายประมงนั้นควรต้องมีการแก้ไข โดยให้ชาวประมงได้เข้ามามีส่วนร่วมกันในการร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย
ช่วงสาย ธนาธร เดินทางไปที่ หาดเภตรา พร้อม กลุ่มบ้านเพทะเลเรา และกลุ่มบิ๊กไบค์กว่า 30 คัน ช่วยกันเก็บขยะบริเวณหาดดังกล่าวด้วย
