ทัศนีย์ —- ตามที่ มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่การประชุม เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2564 ได้มีการประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับประชาชน ที่เสนอโดยกลุ่ม Re-Solution ที่มีประชาชนร่วมลงชื่อเสนอกว่า 1.3 แสนคน โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับประชาชนดังกล่าว มี 7 ข้อเสนอสาระสำคัญในการรื้อระบอบประยุทธ์
ภายหลังการลงมติ ผลปรากฏว่า ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว โดยผลการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภาคประชาชน วาระ 1 มีดังนี้
– รับหลักการ 206 เสียง ประกอบด้วยส.ส. 203 เสียง และ ส.ว. 3 เสียง
– ไม่รับหลักการ 473 เสียง ประกอบด้วย ส.ส. 249 เสียง และ ส.ว.224 เสียง
– งดออกเสียง 6 เสียง ประกอบด้วย ส.ส. 3 เสียง และ ส.ว. 3 เสียง
ล่าสุด ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทยได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ในฐานะที่ตนเคยถูกทหารจับกุม เนื่องจากมีความคิดเห็นต่างในเรื่องการทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ในขณะนั้น ว่า
“ดิฉันคือคนที่ถูกทหารจับกุม เพียงแค่เห็นต่างเรื่องประชามติไปจากคณะรัฐประหาร กลับถูกตั้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และต้องเข้าไปอยู่ในคุกถึง 21 วัน
ดิฉันทนนั่งฟัง ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว. อภิปรายยกเรื่องประชามติอัปยศในครั้งนั้น ที่คนเห็นต่างไปจากผู้มีอำนาจถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก ว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ผ่านประชามติของประชาชน 16 ล้านเสียง ไม่สมควรถูกแก้ไข
ประชามติแบบนี้ พวกท่านยังกล้าอ้างความชอบธรรมกันอยู่อีกเหรอคะ ? ประชามติที่ไม่ต่างอะไรจากการเอาปืนจี้หัวคนเห็นต่าง ไม่ควรได้รับความชอบธรรม
รัฐธรรมนูญที่มาจากเผด็จการและเขียนมาเพื่อสืบทอดอำนาจต้องได้รับการแก้ไข ให้เป็นประชาธิปไตย ให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง
ดิฉัน รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ถูก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว. ปัดตกไป และผิดหวังที่หลายคนใช้ประชามติอัปยศในครั้งนั้น มาเป็นเหตุผลในการไม่ให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ
ดิฉันอยากให้เพื่อนสมาชิกทุกคนระลึกไว้เสมอว่า การเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยนั้น เราต้องเคารพและปกป้องประชาชน ไม่ใช่ปกป้องผู้มีอำนาจ จนลืมประชาชนที่เลือกพวกเราเข้ามาทำหน้าที่ค่ะ”
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย
