นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กกรณี ทอท. ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีสัมปทานของบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ (บริษัทฯ)
อ้างว่าบริษัทฯ ได้รับมาตรการช่วยเหลือดังเช่นผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์รายย่อยทั่วไปกว่า 1,000 สัญญา โดยมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างตามสถานะของสัญญา 2 ประการ ด้วยเหตุผลดังนี้
สมชัย แนะ 5 วิธีทางออก แก้รัฐธรรมนูญ ทำง่ายๆไม่ยุ่งยาก
1 ขยายระยะเวลาเตรียมการเพิ่มอีก 1 ปี ให้สอดคล้องกับการเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1)
2 ปรับจำนวนผู้โดยสารในการคำนวณค่าตอบแทนขั้นต่ำให้สอดคล้องกับความเป็นจริง :
เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 ส่งผลให้รัฐบาลต้องมีมาตรการจำกัดการเปิดน่านฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้การเดินทางทางอากาศมีปริมาณน้อยลง ทอท. จึงเห็นชอบที่จะใช้จำนวนผู้โดยสารจริงในการคำนวณอัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำ โดยยังคงอัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำ และอัตราส่วนแบ่งรายได้เดิมตามสัญญาไว้ทุกประการ
โดยค่าตอบแทนขั้นต่ำนี้จะถูกปรับขึ้นทันทีในปีถัดไปตามอัตราการขยายตัวของผู้โดยสารและเงินเฟ้อ โดยไม่ต้องรอให้ผู้โดยสารกลับมาในระดับก่อนวิกฤตดังเช่นผู้ประกอบการรายอื่นแต่อย่างใด
อนึ่ง มาตรการนี้ได้ถูกออกแบบโดยยึดถือผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ กล่าวคือ
…
-ในส่วนของผลประโยชน์ของประเทศ
1 …
2 หาก ทอท. ปล่อยให้มีการยกเลิกสัญญา ไม่ว่าจะเป็นสัญญาของผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ จะกระทบต่อการจ้างงานจำนวนมาก
ผมตั้งข้อสังเกตว่า โดยสามัญสำนึกของวิญญูชน การที่ ทอท. จะปฏิบัติกับบริษัทฯ เยี่ยงผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไปกว่า 1,000 สัญญานั้น ผมเห็นว่าไม่น่าจะถูกต้อง เพราะผลทางบวกและลบต่อ ทอท. จากสัญญาที่บริษัทฯ ชนะประมูลนั้น มีขนาดและมีความสำคัญที่ใหญ่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไปกว่า 1,000 สัญญาอย่างมากเสียจนเทียบกันไม่ได้
นอกจากบอร์ด ทอท. ไม่สมควรที่จะเปรียบเทียบการผ่อนปรนแก่บริษัทฯ กับผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไปกว่า 1,000 สัญญาแล้ว การที่บอร์ด ทอท. จะพิจารณากันเอาเอง กำหนดเองว่าการผ่อนปรนเท่าใดจึงเป็นธรรมแก่รัฐในฐานะผู้ถือหุ้น ก็ไม่ทราบว่าใช้ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับได้ทั่วไปหรือไม่
เพราะการพิจารณากันเองนั้น ย่อมเปิดช่องความเสี่ยงที่อาจจะมีการฉ้อราษฎร์บังหลวง การหาประโยชน์ส่วนตนอาจมีเกิดขึ้นได้ โดยไม่มีกลไกป้องกันที่เป็นธรรมต่อรัฐอย่างแท้จริง
ปลอดภัยไว้ก่อน! สุริยะ สั่งกรอ.ลุยตรวจโรงงานระยองผลิตสาร แอมโมเนียมไนเตรท
สุชาติ แปลกใจ!รัฐกู้เงินต่างประเทศโครงการ โควิด19 ทั้งที่เงินสำรองตปท.มากมาย
นอกจากนี้ บอร์ด ทอท. ก็ควรแสดงข้อมูลเปรียบเทียบให้ขัดเจนว่า การผ่อนปรนให้แก่บริษัทฯ ทำให้เกิดประโยชน์แก่รัฐมากขึ้นเท่าใด ประการใด เพราะท่านมีหน้าที่จะต้องดูแลให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด และป้องปรามการหาประโยชน์ส่วนตนโดยมิชอบ
เคยมีคนแจ้งผมว่า เทคนิกสกปรกสำหรับประมูลวิธีหนึ่ง ก็คือเสนอตัวเลขประมูลให้สูงไว้ก่อน เพื่อให้ชนะไว้ก่อน แต่ภายหลังก็ใช้วิธีวิ่งเต้นเพื่อให้รัฐวิสาหกิจลดหย่อนเงื่อนไข ซึ่งผมมั่นใจว่า บอร์ด ทอท. คงจะได้วางแนวทางเพื่อป้องกันข้อครหาทำนองนี้ไว้อย่างรัดกุมแล้ว