ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ร่วมกันตั้ง ฉายาสภา 64 ของรัฐสภา ในปี 2564 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้เพื่อสะท้อนการทำงานนักการเมืองตลอดปี 2564 ดังนี้
- สภาผู้แทนราษฎร : ฉายา สภาอับปาง
ได้รับฉายานี้ เป็นเพราะที่ผ่านมา การประชุมสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ใช้เป็นที่ประชุมของส.ส. นักการเมืองพรรคต่างๆ เพื่อประชุมแก้ปัญหาชาติ มักล่มบ่อยครั้ง และถูกมองว่าส.ส. ไม่ได้ยึดประโยชน์ชาติบ้านเมือง อย่างแท้จริงเปรียบก็คล้ายเรืออัปปาง และล่มลงทะเล
- วุฒิสภา : ฉายา ผู้เฒ่าเฝ้ามรดก (คสช.)
ด้วย ส.ว.รัฐบาล ชุดนี้เต็มไปด้วยผู้สูงวัยส่วนใหญ่และต่อต้านและมักขัดขวาง ข้อเสนอการแก้รัฐธรรมนูญฝ่ายค้านในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องยกเลิก ปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยกเลิก เสนอขอแก้ไขเรื่องการล้มล้างอำนาจ คสช. แต่ก็ถูก ส.ว.โหวตคว่ำ ไม่ให้ความเห็นชอบบ่อยครั้ง
- ชวน หลีกภัย : ฉายา ชวนพลังท่อม
ได้รับการยอมรับว่าเป็นประธานสภาฯ ที่ทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้จะนั่งเป็นประธานรัฐสภาในที่ประชุมสภาแล้ว หลังเสร็จงานสภาฯ การเมือง ก็ยังเดินสายทำหน้าอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเดินสายพบปะประชาชน ในแทบทุกภาคของประเทศไทย จนถูกยกไปเปรียบกับคนที่เคี้ยวใบกระท่อม ที่มีแรงและอึด ถึก ทน
- พรเพชร วิชิตชลชัย : ฉายา ร่างทรง
เรียกว่าทำงานให้กับ คสช. มาอย่างยาวนาน ทั้งการได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อเนื่องมาถึงประธานวุฒิสภา อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับความไว้วางใจ ในแง่การสนับสนุนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเพียงร่างทรง รัฐบาลชุดนี้เท่านั้น ทั้งที่มีตำแหน่งเป็นประมุขสภาสูง แต่กลับไม่มีอำนาจแท้จริง
- สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ : ฉายา สมพงษ์ตกสวรรค์
เรียกว่า แทบจะนอนมาเลยกับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภา สำหรับนาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แต่ด้วยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ได้เรียกชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผิดบ่อยครั้ง นั่นจึงทำให้ถูกมองว่าเป็นความผิดพลาด จนในที่สุด นายสมพงษ์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวพรรคเพื่อไทย ซึ่งทำให้หลุดจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไปโดยปริยาย
- นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว : ดาวเด่นแห่งปี
ชื่อของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน กลายเป็นอีกชื่อนักการเมือง ที่ร้อนแรงสุดๆหลังจากการเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งด้วยชื่อชั้นการอภิปราย ลีลาการพูดที่มีลำหักลำโค่น จังหวะจะโคนที่ดี มีหลักการและเหตุผล โน้มน้าวได้ดี จนเข้าตามผู้ใหญ่ในพรรค กระทั่งได้รับการโหวตเลือกให้เป็นผู้นำพรรคคนใหม่ในที่สุด
- วิรัช รัตนเศรษฐ : ดาวดับ
วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ถูกยกให้เป็นดาวดับ การเมืองแห่งปี ทั้งจากเหตุความขัดแย้งระหว่างส.ส.ภายในพรรคพลังประชารัฐ และระหว่างส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงกรณีคดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียน สมัยที่นายวิรัชยังเป็นส.ส. พรรคเพื่อไทย ก่อนจะถูกศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
- แผนกบฏการเมืองล้มนายกรัฐมนตรี : เหตุการณ์เด่นแห่งปี
จากกระแสข่าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลูกพรรคคนหนึ่งเดินสายล็อบบี้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ให้ลงมติไม่ไว้วางใจ ให้บุคคลท่านหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ข้อมูลจะหลุดต่อสาธารณชน จนนำไปสู่เหตุการณ์นี้นำมาสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างนายกฯ กับ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลูกพรรค ก่อนจะมีการปลด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกจากตำแหน่ง
- วัคซีนเต็มแขน : วาทะแห่งปี
จากคำชี้แจงของนายอนทิน รัฐมนตีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่อภิปรายเกี่ยวกับวัคซีนระบุว่า “ไตรมาส 3 วัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในประเทศไทย อยู่เต็มโรงพยาบาลแล้ว อยู่เต็มแขนของพี่น้องประชาชนคนไทยแล้ว”
จนถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมไทย ว่าคนไทย จะมีวัคซีนฉีดกันแน่ๆ เรียกว่า มีวัคซีนฉีดกันเต็มแขนเลย แต่ทว่าวัคซีนกลับไม่มาตามกำหนดที่นายอนุทิน กล่าวไว้ จนคนไทยขาดแคลนวัคซีน กว่าจะวัคซีนจะเริ่มเข้ามาก็ปลายปี 2564 ทั้งที่นายอนุทิน พูดไว้ตั้งแต่ช่วง การอภิปรายเดือนกุมภาพันธ์ ใปีเดียวกัน
- คู่กัดแห่งปี
เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถูกยกให้เป็นคู่กัดนักการเมืองแห่งปี เพราะเวลาประชุมรัฐสภา ทั้งสองคนนี้มักโต้เถียงกันบ่อยครั้ง ซึ่งมักจะโต้เถียงกันด้วยถ้อยคำรุนแรง โต้กันไปมาอย่างดุเดือด จนแทบทำเอาสภาลุกเป็นไฟ