รถไฟความเร็วสูง นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า หลังจากมีข่าวลือหนาหูว่า “นายทุนใหญ่” ที่สนับสนุนการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจซึ่งได้สัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ต้องการจะย้ายสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา “ตามใจตัวเอง” จากตำแหน่งเดิมคือทับกับสถานีรถไฟพัทยาในปัจจุบัน ไปเป็นตำแหน่งใหม่ใกล้ตลาดนํ้าสี่ภาคและสวนนงนุชซึ่งห่างออกไปนอกเมืองอีกถึง 15 กิโลเมตร [Reference 1]

ผมได้เชคข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการ เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทราบเรื่องอย่างเป็นทางการ เห็นแต่ในข่าว และเคยทำหนังสือไปทวงถามแล้ว แต่นายทุนใหญ่ก็ไม่ยอมตอบ ทำให้การดำเนินงานในโครงการเกิดปัญหาคาราคาซัง ส่อแววล่าช้าและอาจเกิด “ค่าโง่” ขึ้นได้หากเวนคืนและส่งมอบพื้นที่ตามแผนเดิมไม่ทัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าเร่งรัดตามแผนเดิมเต็มที่เพราะหากเปลี่ยนตำแหน่งสถานีจริง ประชาชนที่จะโดนเวนคืนก็เดือดร้อนฟรีและฟ้องร้องเอาได้

ล่าสุด นายกเมืองพัทยาก็ออกมารับลูกจากนายทุนใหญ่ ตั้งงบศึกษาเพิ่มให้อีก 60 ล้านบาท (ฟรีจากภาษีประชาชน) เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนในการปรับแผนโมโนเรลให้สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่ใหม่ของนายทุน [Reference 2]

ประเด็นคือนายทุนใหญ่ต้องสนิทสนมกับผู้มีอำนาจมากขนาดไหน ถึงได้ “กล้า” จะสั่งเปลี่ยนตำแหน่งสถานีตามใจตัวเองแบบนี้ และผู้มีอำนาจทำไมถึงต้องยอมนายทุนใหญ่ขนาดนี้ … เราจะอยู่กันแบบนี้จริง ๆ เหรอ

ตำแหน่งสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาและโครงข่ายระบบโมโนเรลต้องถูกวางแผนเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก (ไม่ใช่นายทุนเป็นหลัก) และเมื่อวางแผนแล้ว ให้สัมปทานแล้ว ก็ไม่ควรยอมให้เปลี่ยนตามใจนายทุนใหญ่เยี่ยงนี้

#ก้าวไกล จะเกาะติดประเด็นนี้ต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม ไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่ ผลประโยชน์ของโครงการควรต้องตกอยู่กับประชาชนโดยตรง (อย่าไปเชื่ออย่างที่เขาชอบหลอกลวงว่า “เมื่อทุนใหญ่ร่ำรวย รายเล็กรายน้อยก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย”)
ขอบคุณภาพประกอบจาก Page “โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure”