ฉีดวัคซีนโควิด พล.ท.เชาวลิตร สังฆฤทธิ์ โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เผยกรณีมีข่าวพบการทุจริตของนายทหารไทยที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในซูดาน ซึ่งมีพฤติกรรมฉ้อโกงนำเกลือแร่ไปฉีดเป็นวัคซีนและนำวัคซีนจริงไปขายให้พ่อค้า ว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นเมื่อปี 2563
ซึ่งมีทหารยศร้อยโท นายแพทย์ ประจำโรงพยาบาลทหารระดับ 1 ซึ่งทำความผิดวินัยร้ายแรงในการนำวัคซีนที่ทำจากสารอื่นมาฉีดให้กำลังพล ทบ.ไทยที่ปฏิบัติภารกิจ ที่ซูดาน และถูกองค์การสหประชาชาติ (UN) ตรวจสอบได้และถูกสอบสวน ก่อนถูกส่งกลับไทย และหนีราชการจนถูกปลดออกจากราชการ โดยมีการตั้งกรรมการสอบสวนและรายงาน ผบ.กกล ฉก. ยูเอ็นทราบ โดยกองทัพบก ต้นสังกัดได้ตั้งกรรมการสอบสวนและส่งตัวกลับไทยทันทีเมื่อ มี.ค.2563
ซึ่งกรณีนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และกองทัพไทย กองทัพไม่ปกป้องผู้กระทำผิด ได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและส่งเรื่องให้แพทยสภาตั้งกรรมการสอบคุณธรรม จริยธรรม เพราะเป็นแพทย์ และพบว่าทำผิดจริง หลอกลวงผู้บังคับบัญชา
ทั้งนี้จากการปฎิบัติดังกล่าว สืบเนื่องจากนายแพทย์ใหญ่สั่งว่ากำลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ต้องฉีดวัคซีนและนำสารอื่นเข้าร่างกาย และเรียกเงินค่าวัคซีน จากกำลังพลคนละ 500 บาท รวมกว่า 200 นาย เป็นเงิน 1.7 แสนบาท เมื่อกลับไทยมา นายแพทย์ร้อยโท คนดังกล่าวได้ขาดการติดต่อ ทาง ทบ.จึงปลดออกจากราชการเพราะขาดหนีราชการ เมื่อ 9 เม.ย.2563
โดยศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกหมายจับ เพราะการหนีราชการ และส่งแพทยสภา ให้ถอดถอนใบประกอบวิชาชีพ แต่เจ้าตัวไม่มาให้ปากคำ แพทยสภาจึงยังถอดถอนไม่ได้ ส่วนการกระทำนี้ถือเป็นการกระทำส่วนบุคคลที่สร้างความเสื่อมเสีย ร้ายแรง ต่อกองทัพ และประเทศชาติ ดังนั้น กองทัพไทย จึงได้ดำเนินการ ทันที
ขณะที่ความสัมพันธ์กับยูเอ็น นั้นมีความเข้าใจกองทัพไทยดี และไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกองร้อยเฉพาะกิจทหารช่างไทยในเซาท์ซูดาน โดยเหตุดังกล่าวทราบขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยูเอ็นสังเกตุพบว่า วัคซีนที่ฉีดนั้นมีลักษณะน้ำยาใส สีขุ่นและไม่มีฉลาก จึงนำน้ำยามาตรวจสอบ จนพบว่าเป็นยาป้องกันบาดทะยักหรือเกลือแร่ ซึ่งไม่ใช่วัคซีนจริง ไม่ใช่วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งซื้อมาจากอินเดีย สำหรับการ ถอนใบอนุญาตฯ ถ้าแพทยสภา เรียกตัวไม่มา 2 ครั้งจึงจะดำเนินการลงมติถอนใบนุญาตได้
ส่วนการที่ บิดาของร้อยโทคนดังกล่าว ฟ้องร้องว่าลูกชายถูกกันแกล้งนั้น จากผลการสอบสวนกำลังพลกว่า 200 นาย พบว่าไม่เป็นความจริงเลยที่ รท.นพ.ผู้นี้ถูกกันแกล้ง อีกทั้งการที่กองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายแพทย์ผู้นี้ก็ไม่เคยมาชี้แจงเลย นอกเสียจากเคยยอมรับว่ากระทำความผิดจริงกับผู้บังคับกองร้อยที่เซ้าท์ซูดาน
โดยล่าสุดกำลังพลในเซาท์ซูดานทุกคนยังคงปลอดภัยแข็งแรงดี ไม่มีใครติดเชื้อโควิดทั้งนี้กองทัพไทยกำลังประสานกับกรมควบคุมโรคติดต่อในการขอวัคซีนเพื่อนำไปฉีดให้กลับกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทยในเซาท์ซูดาน ทั้ง 272 นาย