นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/4 กับชื่อรัฐมนตรี สะท้อนได้ชัดว่าเป็นการปรับตำแหน่งเพื่อการขยับสับเปลี่ยนขั้วอำนาจเท่านั้น ไม่ได้มุ่งที่จะหาคนที่เหมาะสมมาขับเคลื่อนนโยบายกระทรวง เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน อย่างนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ทั้งสองท่านประชาชนที่ติดตามการเมืองต่างก็ทราบว่า เป็นผู้ที่มีความสนิทและใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ซึ่งการได้มาซึ่งตำแหน่งรัฐมนตรีของทั้ง 2 ท่านจึงเป็นการปรับตำแหน่ง เพื่อยึดโควตารัฐมนตรีคืนจากกลุ่ม กปปส. ซึ่งมีนายณัฐฏพล ทีปสุวรรณ และนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ และถือเป็นการกำจัดขั้วอำนาจของ กปปส. ให้พ้นไปจากพรรคพลังประชารัฐ ตามสำนวนไทยที่ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนทัพเท่านั้น
ประเด็นที่เป็นข้อสังเกตก็คือ น.ส.ตรีนุช ไม่เคยมีบทบาทที่เด่นชัดในงานด้านการศึกษาเลย ไม่เคยแสดงให้สาธารณชนรับรู้ถึงแรงบันดาลใจในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ปกป้องสิทธิและเสรีภาพของของเด็กและเยาวชน ส่วนนายชัยวุฒิเอง การที่ไม่ได้จบการศึกษาทางด้านดิจิทัล หรือคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัท Gulf Energy ซึ่งไม่ใช่บริษัททางด้านดิจิทัล ถึงจะไม่ใช่ปัญหามากมายนัก แต่ความกังวลที่ประชาชนมีต่อนายชัยวุฒิ ก็คือ บทบาทที่ผ่านมา ในฐานะผู้ภักดีต่อทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร ที่มีท่าทีปฏิปักษ์อย่างชัดเจนต่อผู้ชุมนุม
ทั้งนี้ สำหรับนายสินิตย์ เลิศไกร นี่ประหลาดใจมาก เพราะมาจากการคัดเลือกแบบโหวตภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยในกระทรวงใด จึงสะท้อนให้ประชาชนได้ทราบอย่างชัดเจนว่า เป็นการคัดเลือกผ่านระบบมุ้งและเครือข่ายอำนาจภายในพรรคเท่านั้น