Voice TV — เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 เว็บไซต์ส่องสื่อ รายงานว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ประชุมเป็นครั้งที่ 12/2564 โดยมีการพิจารณาหลายประเด็น หนึ่งในประเด็นที่สำคัญคือระเบียบการประชุมที่ 5.1.16 ข้อร้องเรียนกรณีตรวจสอบพบการออกอากาศรายการ “VOICE GO” เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๔ ทางกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ แบบบอกรับสมาชิก ระบบดาวเทียม ช่องรายการ Video To Home 9 อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสม
โดยมีการพิจารณา พบว่าที่ประชุมเสียงข้างมาก ประกอบไปด้วยพลเอก สุกิจ ขมะสุนทร ทำหน้าที่ประธาน กสทช., พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์, พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ, รศ. ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ และ ผศ.ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ เห็นชอบให้กำหนดโทษปรับทางปกครองแก่บริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ แบบบอกรับสมาชิก ระบบดาวเทียม ช่องรายการ Video To Home 9 เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท
โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 59 (3) ประกอบมาตรา 57 (2) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่าการออกอากาศรายการ “VOICE GO” เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ทางกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ แบบบอกรับสมาชิก ระบบดาวเทียม ช่องรายการ Video To Home 9 เข้าข่ายเป็นเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
ด่วน! VOICE TV ถูกสั่งปิดทุกช่องทางออนไลน์แล้ว ฐานผ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ดี นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา มีข้อคิดเห็นที่แตกต่างจากมติที่ประชุมในเรื่องของการกำหนดค่าปรับ แต่อาจเป็นการขอความร่วมมือให้ระมัดระวังเนื้อหารายการก็เพียงพอแล้ว อย่างเช่นกรณี ช่องรายการ Video To Home นำเนื้อหารายการ Voice Go มาออกอากาศ หัวข้อ “อยู่หยุดขัง จนกว่าจะ #ปล่อยเพื่อนเรา” “หวัง ตุลาการ ไม่รับใบสั่ง เคารพสิทธิมนุษยชน” และ “ผูกโบว์ขาว เรียกสำนัก–คืนความยุติธรรม” โดยในกรณีดังกล่าวพบว่านักข่าวเพียงไปสัมภาษณ์ผู้ชุมนุมถึงความเห็น วัตถุประสงค์ และเหตุผลที่ออกมาชุมนุม ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแง่มุมของสื่อสารมวลชนจึงถือได้ว่าเป็นการทำหน้าสื่อโดยสุจริต
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งกสทช-ดีอีเอส ปิดและระงับ Voice TV, The STANDARD และ The Reporters
อีกทั้งสำนักงาน กสทช. ยังไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจากการนำเสนอเนื้อหาดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือหมิ่นศาลหรือไม่ ซึ่งถ้ามีก็อาจจะเข้าองค์ประกอบความผิดดังกล่าว แต่ถ้าไม่มีก็คงไม่เหมาะสมที่ กสทช. จะด่วนตัดสินเอง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีระเบียบการประชุมที่ 5.1.17 กรณีบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 มีการออกอากาศรายการโดยมีการโฆษณาบริการหรือสินค้าที่อาจเข้าข่ายเป็นการโฆษณาเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ช่วงระหว่างเวลา 11.00 – 12.00 น. มีระยะเวลาโฆษณารวมทั้งสิ้น 06.44 นาที และช่วงเวลา 12.00-13.00 น. มีระยะเวลาโฆษณารวมทั้งสิ้น 07.37 นาที ถือเป็นการโฆษณาบริการหรือสินค้าเกินชั่วโมงละ 6 นาที อันเป็นการกระทำความผิดตามข้อ 5 (8) ของประกาศ กสทช. โดยทันทีที่ได้รับหนังสือแจ้ง หากบริษัท เอ็มวีทีวี บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่องรายการ Video To Home 9 ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว กสทช. จะกำหนดโทษปรับทางปกครองเป็นเงิน 1,000,000 บาท และปรับอีกวันละ 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
ขอบคุณเนื้อหาจาก ส่องสื่อ