วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 นาย วัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
“โฆษกรัฐบาลแถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 5 ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและยังต้องควบคุมการเข้าออกประเทศ
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอาศัยอำนาจตามมาตรา 27 และ 28 แห่ง พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 กำหนดเงื่อนไขให้อากาศยานที่จะขึ้นลงต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งการประกาศตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ตามข้อ 3 ของประกาศลงวันที่ 29 มิถุนายน 2563
ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามกฎหมายดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามประกาศอาจมีความผิดฐานละเว้นตามกฎหมายอาญา
เครื่องบินทหารของอียิปต์เดินทางมาไทย เพื่อหยุดพักแต่ไม่ได้มาปฏิบัติการในไทย ส่วนราชการที่อนุญาต คือ กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพอากาศ ส่วนกองทัพเรือหละหลวมปล่อยให้ทหารอียิปต์ออกมา คำถามที่รัฐบาลต้องตอบประชาชนคือ เหตุใด กต. และ ทอ. จึงอนุญาตให้เครื่องบินทหารของอียิปต์เข้ามาจอดพักในไทย ทั้งที่เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงและประเทศปลายทางที่ไปปฏิบัติภารกิจ คือ จีนก็เป็นต้นกำเนิดของโรคนี้ และเมื่ออนุญาตให้เข้ามาลงจอดแล้วเหตุใดจึงไม่ควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมายเหมือนที่ทำกับคนไทย
สำหรับผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน คือ นายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกคำสั่งควบคุมเสรีภาพของคนไทย ดำเนินคดีกับนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศฉุกเฉิน แต่ปล่อยให้ทหารอียิปต์นำโรคมาแพร่ในไทย แทนที่จะรับผิดชอบและขอโทษประชาชนกลับปล่อยให้โฆษก ศบค. ออกมาแก้ตัวไปวัน ๆ ขาดความรู้ คือ โง่ ไม่มีความรับผิดชอบ คือ เลว รัฐบาลนี้ครบเครื่องไม่ตกหล่น ลาออกไปเถอะครับ”