พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการใช้มาตรา 44 ประกาศควบคุมพื้นที่เพื่อตรวจค้นวัดพระธรรมกายว่า เพียงต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในพื้นที่ได้ และเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ ไม่ได้ไปดำเนินการอะไรที่นอกเหนือจากนี้ อีกทั้งไม่ต้องการทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนจะควบคุมพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องพิจารณา แต่โดยหลักการคือให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกมา แล้วห้ามคนเข้าไป
ส่วนจะทราบผลการตรวจค้นวันนี้เลยหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ยัง เพราะเจ้าหน้าที่จะค่อยๆ ทำ พูดคุยกันให้ชัดเจน ไม่ใช้กำลังเข้าไปบุกจับ ไม่ใช้ความรุนแรง แต่ต้องใช้ความเข้าใจว่ากฎหมายคือกฎหมาย ย้ำขอให้ไว้วางใจว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง โดยเฉพาะกับประชาชน
สำหรับแนวทางดำเนินการ กรณีพบหรือไม่พบพระธัมมชโยนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หากไม่พบก็ไม่เป็นไร แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฐานะที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องดูเเลแล้ว โดยขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจภูธรภาค 1 และยังยืนยันว่าทหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการตรวจค้นภายในวัด เพียงแต่สนับสนุนอยู่พื้นที่ภายนอกวัดเท่านั้น
ทั้งนี้ นโยบายของนายกรัฐมนตรี คือไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย แต่ต้องมีความชัดเจน ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย รัฐบาลถูกกล่าวหาว่าไม่ทำอะไรเลย แต่เมื่อทำกลับถูกโจมตี ดังนั้นจึงต้องค่อยๆ ทำ และต้องไม่เกิดความสูญเสีย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ในหลายๆ เรื่องมานานแล้ว จึงไม่ต้องเป็นกังวลแต่อย่างใด
