“ออมสิน”เผย สมเด็จพระสังฆราช ห่วงเสนอข่าวเสียภาพลักวงการสงฆ์ อีก 2 เดือน รู้ผลสอบข้อเท็จจริงทุจริตเงินทอนวัด “ประนอม” ถึงจะเกษียณ หากผิดฟันอาญา
นายรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งย้าย นางประนอม คงพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 60 ที่ผ่านมานั้น เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสำนักพระพุทธศาสนา ได้ดำเนินสอบสวนได้อย่างข้อเท็จจริง ทั้งนี้การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทุจริตเงินทอนวัด จะใช้เวลาถึง 2เดือน ซึ่งคาดว่า นางประนอม จะเกษียณอายุราชการ ไปแล้ว แต่เมื่อมีความผิด ทางด้านคดีอาญา ก็สามารถดำเนินการทำผิดได้ นอกจากนี้ทาง พศ.ก็จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วยต่อไป
นายออมสิน ยังระบุว่า ทางสำนักพระทธศาสนา ไม่มีปัญหาในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเงินทอนวัดแต่อย่างใด และจะดำเนินการสอบสวนต่อไป ซึ่งขณะนี้ทาง พศ. มีการตั้งคณะสอบสวนข้อเท็จจริงถึง 2 คณะ และการสอบสวนก็เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่มีปัญหาการโยนเรื่องไปมา กับทาง ตำรวจ ปปป. แต่อย่างใด เพราะมีการแยกการดำเนินคดี โดย ปปป. จะดำเนินคดีอาญา ทาง พศ.ดำเนินการสอบสวนทางด้านวินัย และยืนยันว่า แต่ละวัดให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีเงินทอนวัด เป็นอย่างดี ซึ่งกรณีวัดปากน้ำ ปฎิเสธให้ข้อมูลนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะจากการสอบถามข้อเท็จจริงด้วยตนเอง ทราบว่าการที่ ตำรวจ ปปป.นัดให้ข้อมูลตรงกับเวลาใกล้ฉันเพล ทางวัดจึงขอเลื่อนไปเป็นเวลา 13.00 เท่านั้น ดังนั้นทางวัดจึงไม่ได้ขอเลื่อนให้ข้อมูลแต่อย่างใด
นายออมสิน ยังชี้แจง เรื่องงบประมาณที่อุดหนุนโรงเรียนพระปริยธรรมว่า งบประมาณการเรียนดังกล่าว ตามะเบียบจะต้องมีการตั้งของบประมาณไว้ล่วงหน้า ดังนั้นตัวเลขก็อาจจะคลาดเคลื่อนบ้างซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทุจริตเงินแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องการจัดทำสมาร์ทการ์ดพระนั้น ภายหลังจากหารือกับหน่วยกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คาดว่า จะดำเนินการได้ทันที เพราะมีฐานข้อมูล จากเลขบัตรประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันพระสงฆ์ในประเทศไทย มากกว่า 3 แสนรูป และมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนไว้แล้ว ทั้งนี้สมาร์ทการ์ด จะต้องใช้คู่กับหนังสือสุทธิพระควบคู่กันไปด้วย โดยคาดว่า 3เดือนนับจากนี้ อาจจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น โดยบัตรสมาร์ทการ์ดพระ จะมีการบรรจุข้อมูลพระ บวชเมื่อไร จำพรรษาที่ไหน และสมณะศักดิ์ของพระ เป็นต้น
ทั้งนี้การหารือกับทางมหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนา เมื่อวานนี้ ทางพระผู้ใหญ่ ยังมีข้อห่วงใยต่อการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่จะส่งผลกระทบต่อวงการพระพุทธศาสนา ดังนั้นก่อนการจะตั้งโต๊ะแถลงข่าว จึงขอความร่วมมือให้มีการหารือ กับพระชั้นผู้ใหญ่ด้วย เช่นเดียวกับสมเด็จพระสังฆราช ที่พระองค์ทรงห่วงใยในเรื่องนี้ เช่นกัน