เหล่าแกนนำ นปช. เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษพัทยา เพื่อขอเข้าเยี่ยมท่ามกลางการให้กำลังใจของกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมาก เผยเตรียมยื่นประกันพร้อมเขียนใบฎีกาด้วยมือหวังได้รับความเมตตาจากศาล
จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง หรือ “กี้ร์” จำเลยที่ 1 กับกลุ่ม นปช.พัทยา อีก 12 คน (จำเลยที่ 2-13) เป็นแกนนำ พามวลชนบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนซัมมิท ที่จัดขึ้นที่โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2552 ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคือ จำคุกนายอริสมันต์ กับพวกเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และไม่อนุญาตให้ประกันตัว ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดไปยังเรือนจำพิเศษพัทยา จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำ นปช. นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายแพทย์เหวง โตจิราการ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง พร้อมด้วย นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ภรรยาและลูกของ “กี้ร์” นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ได้เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษพัทยา ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีกครั้ง เพื่อขอเข้าเยี่ยม นายอริสมันต์ ภายหลังจากมาเยี่ยมไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดงมาให้กำลังใจจำนวนมาก
จากนั้น นายจตุพร เปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า ทุกคนมีความเป็นห่วงซึ่งกันและกันเพราะเคยต่อสู้ร่วมอุดมการณ์กันมายาวนาน คนที่อยู่ภายนอกจึงเหมือนกับติดคุกและรับความทุกข์ไปด้วยพร้อมกันโดยเฉพาะคนในครอบครัวคือภรรยาและลูก ๆ ของผู้ต้องขัง ซึ่งในส่วนของการดำเนินการนั้นได้ทำตามขั้นตอนอย่างรัดกุมตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษาแล้ว จากนี้จะได้ทำควบคู่กันไปทั้งเรื่องของการยื่นประกันตัวและยื่นฎีกาซึ่งจะเป็นการเขียนฎีกาด้วยมือ และให้ทีมทนายความดำเนินการแทรกหนังสือยื่นประกันคาดว่าอาจใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ จะได้ดำเนินการพร้อมกันทั้งหมดทุกคนไม่แยกเป็นรายคน เพราะถือว่าทั้งหมดคือผู้ร่วมชะตากรรมด้วยกัน ในส่วนของกำลังใจยังมีอยู่แต่มีความทุกข์กันทุกคน คนที่อยู่ข้างในก็ห่วงคนข้างนอก คนข้างนอกก็ห่วงคนข้างใน แต่อย่างไรก็ตามจะได้เร่งดำเนินการโดยเร่งด่วนและรวดเร็วที่สุด ซึ่งมีความคาดหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากศาลฎีกา