เหวอกันทั้งสภา! ประธานสภา สั่งเลื่อนประชุม ขณะที่ยังมีผู้อภิปราย ยกมือกันเต็ม หลังถก ‘ญัตติ’ เสนอชื่อซ้ำ? – ก้าวไกล ลั่น! สส.500 คน ใช้ ภาษีประชาชน เดินทางมาเท่าไหร่
วันที่ 4 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา ได้มีสมาชิกรัฐสภาทยอยเดินทางเพื่อเข้าประชุมหารือ เกี่ยวกับวาระ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกมาตรา 272 ปิดสวิตช์ สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อวานนี้ทางประธานสภาฯ ได้เลื่อนวาระการประชุมของการโหวตเลือกนายกฯออกไปก่อน
หลังจากเปิดการประชุมร่วมรัฐสภาได้ไม่นาน ก็เกิดการถกเถียงกัน ระหว่าง สส. และ สว. เนื่องจากนาย รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ให้ทบทวนการลงมติของที่ประชุมรัฐสภาวินิจฉัยตีความการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นไปตามข้อบังคับรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่
ทำให้นาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ตัดสินใจประกาศกลางที่ประชุมรัฐสภา เลื่อนถกแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ปิดสวิตซ์ สว. อย่างกะทันหัน ก่อนจะสั่งปิดการประชุมในทันที ท่ามกลางความมึนงงของ สส. โดยเฉพาะ สส.พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย
ทาง พรรคก้าวไกล ก็ได้มีการแถลง หลังปิดประชุมสภา โดยยืนยัน ว่าทางพรรคมี 2-3 ประเด็นที่อยากอยากสื่อออกไป โดย ประเด็นที่ 1 “ญัตติ” ที่ สส.พรรคก้าวไกลได้เสนอให้มีการทบทวน ที่ทางรัฐสภา เคยพิจารณาการเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี ไปตามญัตติ ตามข้อที่ 41 เป็นญัตติที่ถูกต้อง วันนี้ประธานสภาควรมีการเปิดเพื่อให้ลงมติ ว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ
ในฐานะที่พรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายที่สนับสนุน การเสนอชื่อ “คุณวันนอร์” เป็นประธานสภา เราก็มีข้อกังวลว่า การปิดสภาในวันนี้ จะเป็นข้อที่วิพากษ์วิจารณ์ได้ว่า ไม่สง่างาม
ประเด็นที่ 2 การปิดประชุมสภาในวันนี้ ทำให้การประชุมวาระ ทั้ง 2 วาระ ไม่สำเร็จทั้งหมด ไม่เกิดขึ้น อย่างการเลือกนายกฯ เรายืนยันว่า สามารถเลือกได้โดยไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อบอกให้เลื่อนไปก่อน ก็ยังมีวาระการเสนอยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ถ้าผ่านวาระ 1 ก็จะทำให้การเลือกนายกฯ ไม่ไปสู่ทางตัน หวังว่าการประชุมครั้งต่อไปจะดำเนินการไปได้โดยเร็วที่สุด

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า การเสนอวันนี้ มีนักวิชาการเข้าชื่อในแถลงการณ์ 115 คน มีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การพิจารณาในประเด็นผู้ที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งถูกเลื่อนหลายครั้ง เราไม่จำเป็นต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อตัดสินในไปแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยอำนาจของสภา เมื่อเราเสนอแล้ว มีผู้รับรองถูกต้อง ประธานสภาฯ ต้องให้พิจารณาเรื่องนี้ เราไม่ได้มีเจตนาในการประวิงเวลา ใช้เวลามากเกินไป และจะได้ข้อสรุปอย่างเร็วที่สุด หากได้ทบทวนในผลของการลมติครั้งก่อน ก็จะได้ไม่ต้องเจอเงื่อนไขการเลื่อนประชุมออกไป ซึ่งไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยว่าอย่างไรในอนาคต
1.ญัตติของพรรคก้าวไกล เป็นหลักการซ้ำ เพราะสภามีมติตาม 151 ไปแล้ว จึงเข้าข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ไปแล้ว จึงขอยืนวันว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เรามีมติการตีความข้อบังคับว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเสนอได้อีกหรือไม่ เรื่องที่เสนอวันนี้คือการทบทวน โดยสาระสำคัญคนละเรื่อง การเสนอของก้าวไกลไม่ใช่ญัตติซ้ำ หากเสนอไปแล้ว และเสนออีกในสัปดาห์หน้า ก็ทำไม่ได้ เพราะมันซ้ำ
2.ตามข้อบังคับ 51 การตีความนั้นต้องตีความเด็ดขาด หมายความว่าเมื่อตีความแล้วจะมีผู้ใดยกเรื่องเดิมมาอีกไม่ได้ แต่ไม่ได้ปิดกั้นไม่ให้ทบทวนวินิจฉันอีกครั้ง ยืนยันว่าสามารถเสนอได้ มีสมาชิกจากพรรคเพื่อไทยก็ช่วยยืนยัน จึงน่าแปลกใจที่การประชุมสภาต้องสิ้นสุด โดยไม่มีข้อยุติอะไรเลย ซึ่งพอเลื่อนประชุม ที่น่าเสียดายที่สุดคือ การแก้ไขมาตรา 272 ที่เป็นทางออกที่สำคัญของประเทศก็ไม่ได้พิจารณา
“วันนี้ทราบมาแต่ต้นว่ามีความพยายามในการล้มการประชุม ถ้าไม่ได้ สส. วิโรจน์ ช่วยกระตุ้น คงจะไม่มีการแห่เข้ามาประชุม แต่การใช้วิชามารแบบนี้ ขอถามว่า ประเทศได้อะไรจากการปิดการประชุมแบบนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายชัยธวัช ย้ำว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราไม่แน่ใจว่าการเลือกนายกฯ จะยืดเยื้อไปถึงไหน ตอนนี้ก็ไปถึงกลางเดือนแล้ว หากวันนี้ได้พิจารณามาตราดังกล่าว และผ่านวาระที่ 1 สิ้นเดือนนี้อาจผ่านวาระที่ 3 ได้ เป็นอีกมาตราการที่ทำให้การเมืองไม่ไปสู่ทางตัน
เมื่อถามว่าหากแก้ไขได้จะกลับมาเสนอชื่อนายพิธา อีกครั้งหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า เราไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ทำเพื่อทุกพรรค รวมถึงพรรคเพื่อไทยที่ตอนนี้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย อาจไม่จำเป็นต้องพลิกขั้วรัฐบาล หรือถูกบีบให้ไปร่วมกับพวกสืบทอดอำนาจจากขั้วรัฐบาลเดิม
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไม่ได้เป็นญัตติ สามารถเสนอซ้ำได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า หากมีคำวินิจฉัยแบบนั้น ก็ต้องคุยกับพรรคการเมืองอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าการเสนอญัตติวันนี้ เห็นว่าไม่ใช่อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญในการมาชี้ แต่ควรเป็นอำนาจของสภา เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ จึงเสนอให้มีทบทวน เรื่องนี้ไม่อยู่ในขอบเขตของอำนาจศาล จึงเสนอให้ใช้กลไกรัฐสภา
หลังจากเกิดเรื่องราวขึ้น ด้าน รักชนก ศรีนอก สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ ข้อความผ่าน Facebook รักชนก ศรีนอก – Rukchanok Srinork โดยระบุข้อความว่า “เหวอกันทั้งสภา”
ในขณะที่ยังมีคนยกมือรอพูดอภิปรายมีญัตติจ่อเสนอและมีวาระ272 รออยู่ อยู่ๆประธานสภาก็ประกาศเลื่อนประชุม และปิดประชุมทันที สส 500คนจากทั่วประเทศ ใช้ทรัพยากรเท่าไหร่ในการเดินทางมาประชุม 1ครั้ง ค่าเดินทาง ค่าเครื่องบิน ค่าข้าว ที่เบิกจากภาษีประชาชน แต่ยังประชุมไม่ถึงไหนเลย ประธานตัดช่องน้อยปิดประชุมโดยไม่ทราบสาเหตุ ในฐานะสสสมัยแรกงงมาก สภาทำงานกันแบบนี้หรอ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY