ตรึงต่อไปไม่ไหวแล้ว ผงซักฟอก-มาม่า เตรียมขึ้นราคา เครือสหพัฒน์ ยื่นขอปรับราคาสินค้าหลายรายการ ชี้ วิกฤตนี้รุนแรงกว่าปี 40
ตลอดช่วงปี 2565 นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สินค้ามากมายที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งอุปโภคบริโภคนั้นต่างทยอยขึ้ยราคากันอย่างต่อเนื่อง บางรายการแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ธุรกิจรายเล็กต่างได้รับผลกระทบนี้ด้วย เช่นเดียวกับประชาชนที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ค่าครอบชีพต่อวันที่เพิ่มขึ้นแบบงงๆ แต่รายรับยังคงเท่าเดิม หวั่นเกิดปัญหาหนี้สินตามา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ทางด้านเพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า ประธานเครือสหพัฒน์’ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่ รับ ยื่นขอปรับราคาสินค้าหลายรายการไปกระทรวงพาณิชย์แล้ว เหตุแบกต้นทุนไม่ไหว “ไม่ขึ้นราคาก็อยู่ไม่ได้” เริ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป-ผงซักฟอก ชี้วิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ รุนแรงกว่า’วิกฤตต้มยำกุ้งปี 40
ซึ่งการขอปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ชี้ ระหว่างการแถลงข่าวจัดงานสหกรุ๊ปฯ แฟร์ ว่า
- ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้เกิดภาวะน้ำมันแพง
- ราคาวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าหลายประเภท เช่น ข้าวสาลี น้ำมันปาล์ม เพิ่มสูงขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จากความกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหาร
- ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าหลายรายการ ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคา


” สินค้ากลุ่มแรก ๆ ที่ได้ยื่นขอปรับราคาไป คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตามด้วยผงซักฟอก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าขอปรับขึ้นเท่าไหร่ “
ในเวลานี้ หลายประเทศมีการปรับขึ้นราคาสินค้าไปหมด ไทยไม่ขึ้นราคาไม่ได้แล้ว และหากมีการคุมราคานาน ก็มีโอกาสที่สินค้าจะขาดแคลน วิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 40 ซึ่งผ่านไป 26 ปีแล้ว มาเจอกับวิกฤตในครั้งนี้ ถือว่าเป็นวิกฤตที่รุนแรงกว่า เพราะส่งผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์
ประธานเครือสหพัฒน์ ยังเชื่อว่ากำลังซื้อของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วกว่าประเทศใกล้เคียง ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทำอยู่ถือว่าใช้ได้ และไม่บังอาจจะเสนอแนะอะไรไปยังรัฐบาล
ขอบคุณข้อมูล – สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว