ดราม่าหนัก หลัง นายกฯปกป้องพุทธ โพสต์ถาม ต้องการจะรบกันใช่ไหม หลังมีภาพนักเรียนสวม ฮิญาบ ไปโรงเรียน ชี้ ไทยไม่มีทะเลทราย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เกิดกระแสร้อนแรงที่ทำให้โลกออนไลน์ถึงกับร้านละอุขึ้นมา กับประเด็นในเรื่องของศาสนาเมื่อ นางพาศิกา สุวจันทร์ นายกสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับประเด็นของนักเรียน จากโรงเรียนแห่งหนึ่งที่สวมผ้าคลุมฮิญาบมาเรียน ซึ่งนางพาศิกา ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า
“ตกลงว่าต้องการจะรบกันใช่ไหม? เพราะเห็นพยายามครอบงำทุกองคาพยพของประเทศไทย ด้วยวัฒนธรรมทะเลทรายที่ต้องเอาผ้ามาคลุมหัวเพราะลมพัดฝุ่น พัดทรายเข้าตา แต่ที่นี่คือประเทศไทย ไม่มีทะเลทราย จึงสรุปได้ว่าพวกคุณตัองการรบกับพวกเรา!”

และนอกจากโพสต์นี้แล้ว ยังได้มีโพสต์อื่นๆ ที่เป็นการกล่าวถึงในประเด็นเดียวกันนี้ปรากฏอยู่บนหน้าเฟสบุ๊กอีกมากมาย เช่น




ทั้งนี้ ยังได้มีชาวเน็ตมากมายที่ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ของนางพาศิกา ที่ได้กล่าวถึงการาสวมผ้าคลุมฮิญาบของนักเรียนมาโรงเรียน โดยชาวเน็ตต่างมีความคิดเห็นว่า
การให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นพื้นฐานของมนุษย์เราค่ะส่วนการดูถูกเหยียดหยามตำหนิคนกลุ่มอื่นเพียงเพราะเขาต่างจากเราเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ควรมีนะคะเรียนจบมาสูงอย่าเสียเงินเปล่าค่ะใช้สมองทั้งสองซีกให้เกิดประโยชน์ถึงจะคนละศาสนาก็คือส่ะว่ายังมีความเป็นคนด้วยค่ะ
อื้ม ดูผู้โพสต์ไม่ได้มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับ “ฮิญาบ” หรือผ้าคลุมผมเลยนะครับ ผ้าคลุมผืนนี้ถือเป็น “หลักการศาสนา” ที่ผู้หญิงในศาสนาอิสลามจำเป็นต้องใส่ ตามบทบัญญัติของหลักศาสนา ไม่ใช่เป็นเพียง “วัฒนธรรมทะเลทราย” หรือเพื่อป้องกัน “ลมพัดฝุ่น พัดทรายเข้าตา” อย่างที่คุณกล่าวอ้างในเมื่อสิ่งนี้คือหลักการศาสนา คุณไปดูนะครับว่า สิทธิ ว่าด้วยการปฏิบัติตามหลักการศาสนา ในสากลเขามีจุดยืนอันเป็นฉันทามติร่วมกันอย่างไรอีกอย่าง ไม่มีมุสลิมคนไหนอยากลดตัวลงไปเกลือกกลั้ว ไปรบกับคุณหรอกครับ ทุกวันนี้เอาชีวิตตัวเองให้รอดในประเทศกักขฬะภายใต้ชนชั้นนำยุคปัจจุบันก็สาหัสพอแล้วตื่นนะครับ อย่ามโนไปไกล



อีกทั้งทางเพจ Drama-addict เองก็ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “คำถามน่าสนใจ อันนี้ตอบแทนชาวมุสลิม ในฐานะที่จ่าก็ทำงานในชุมชนมุสลิมมานานได้ครับ เขาไม่ซีเรียส คือ ชาวมุสลิม เขาถือว่าหมูเป็นของไม่สะอาดตามหลักศาสนาเขา ดังนั้นเขาจะไม่กิน ไม่สัมผัส แต่ไม่ใช่ว่าเขากลัวหมูนะ และในชุมชน ไม่ได้มีแค่ชาวมุสลิม มีทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิมอยู่ร่วมกัน ดังนั้นคนเข้าไปขายหมูปิ้ง ก็ขายไป ชาวมุสลิมก็ไม่ซื้อกิน ขายชาวไทยพุทธหรือศาสนาอื่นๆที่กินหมูตามปรกติไป ต่างคนต่างทำมาหากิน แค่นั้นเอง”

ข่าวที่น่าสนใจ
ข่าวดี! คลัง ขยายเวลาลงทะเบียน เราชนะ กลุ่มคนพิการ-ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยติดเตียงถึง 9 เม.ย.นี้
ระบาดหนัก! ยาเสพติดโซเชียล ป.ป.ส เผย จับแล้วกว่า 30,000 คดี
สยอง! หนุ่ม พบปลายมีดในหน้าอก ตัวเอง หลังจากถูกแทงเมื่อ 14 เดือนที่แล้ว