สส.ปูอัด แย้มเรื่องการย้ายพรรค ถูกฝ่ายค้าน-รัฐบาล รุมจีบ หลังถูกขับจาก ก้าวไกล แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ รับยังกังวล ปมคุกคามทางเพศ
กรณี สส.คุกคามทางเพศ ที่หลังจาก สส.ปูอัด หรือ นายไชยามพวาน ได้ออกมาแถลงข่าวที่ผ่านมา ทำให้ประชาชน และพรรคก้าวไกล ยังคงติดใจกับการแถลงการณ์ดังกล่าว และทางพรรคก้าวไกลได้ประชุมทำประชามติเรื่องนี้อีกครั้ง และผลออกมาว่า สส.ปูอัด จะต้องถูกขับออกจากพรรค จาก 128 เสียง
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่เขตจอมทอง-ท่าข้าม หลังถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล ว่า ยังคงทำงานเหมือนเดิม 7 วันเต็ม เพราะปัญหาในพื้นที่มีมาก
นายไชยามพวาน กล่าวต่อว่า ซึ่งเราทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว คือ เอาปัญหาของทุกคนมาเป็นปัญหาของประเทศ จึงทำให้เราหยุดทำงานไม่ได้ ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะถอดเสื้อก้าวไกลออกไปแล้ว แต่ทุกคะแนนที่เขากาให้เรา เพราะให้เราทำงาน ดังนั้นเราจะต้องทำงานให้เต็มที่ให้ได้
เมื่อถามว่าในขณะที่ยังไม่ได้สังกัดพรรคไหนจะเป็นอุปสรรคในการลงพื้นที่หรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ต้องบอกว่าตนโชคดีมากตั้งแต่ได้รับหน้าที่เป็นสส. เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับข้าราชการที่นี่มาก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานเขต และอาสาต่างๆ เราปฏิบัติตนไม่ต่างอะไรกับเขา

เราไม่ได้สูงส่งไปกว่าเขา จึงทำให้รู้สึกว่าการทำงานของเราไม่ได้มีช่องว่างระหว่างกัน รู้แค่ว่าเราจะช่วยกันทำงานอย่างไรให้ปัญหาถูกแก้ไขได้อย่างสำเร็จ จึงถือว่าไม่ได้มีอุปสรรคอะไร แต่จะมีก็แค่ปัญหาอุปสรรคโครงสร้างระดับใหญ่
เมื่อถามว่าได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่หรือไม่หลังถูกขับออกจากพรรค นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนเหมือนมาเริ่มนับศูนย์ใหม่ และเดินเท้าอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ แต่เป็นโชคดีของตนที่ประชาชนในพื้นที่เอ็นดูให้การสนับสนุน ซึ่งไม่รู้จะขอบคุณยังไง เพราะมีแค่ประชาชนจริงๆ ที่ทําให้ยังยืนอยู่ตรงนี้ได้
“ส่วนที่บอกว่ามีการใช้ประชาชนเป็นโล่กำบังนั้น สำหรับผมหันหลังไปมีแค่ประชาชนจริงๆ ผมมีเท่านี้จริงๆ ผมมาช่วยด้วยหัวใจ ไม่ได้ช่วยเพื่อจะมาเอาตำแหน่งในอนาคต วันนี้ต่อให้ไม่มีโลโก้ก้าวไกล ก็ยังเดินหน้าอุทิศทุกลมหายใจให้กับทุกคนเหมือนเดิม ตราบวันสุดท้ายที่ตนจะออกจากสภา” นายไชยามพวาน กล่าว

ย้ายไปอยู่พรรคไหน?
เมื่อถามว่ามีพรรคไหนติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า มีติดต่อมาหลายพรรคมาก ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่สิ่งที่เราโฟกัสคือการให้อิสระในการทำงาน เพราะตนเป็นคนทำงานในพื้นที่หนัก เพื่อให้รู้สึกว่าสส.จับต้องได้ ไม่ได้สูงส่งไปกว่าใคร และให้อิสระทางด้านความคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าที่ตนตั้งใจอยากจะทําให้สำเร็จ
ส่วนจะย้ายไปสังกัดพรรคไหนยังไม่ตัดสินใจ อยู่ในช่วงที่หลายๆ พรรคเข้ามาพูดคุย การจะไปอยู่กับใครเขาต้องเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของเรา ยังมีเวลาตัดสินใจ เราก็จะได้คำตอบว่าจะย้ายไปอยู่พรรคไหน ยอมรับว่ามีความกังวลที่จะย้ายไปสังกัดพรรคอื่นเพราะปมคุกคามทางเพศ แต่ทั้งหมดให้ประชาชนเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าถูกหรือผิด