“รังสิมันต์ โรม” เคลื่อนไหว หลัง สว.ทรงเอ “อุปกิต ปาจรียางกูร” ฟ้องคดีหมิ่นประมาท 20 ล้าน พร้อม นัดไต่สวน 11 ก.ย. 66
จากกรณีเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 66 นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา มอบหมายให้นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี และนายอัครวัฒน์ อมรวสุธันย์ ทนายความส่วนตัวยื่น ฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมต่อศาลอาญา รัชดาฯ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังจากพบว่าทั้งสองคนได้มีการกระทำที่เป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาอีกครั้ง แม้จะถูกฟ้องคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว
ซึ่งทางศาล ได้มีการนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 11 กันยายน 2566 เวลา 9.00 น. โดยเรียกค่าเสียหายจำนวน 20 ล้านบาท ทางด้าน ทางนาย รังสิมันต์ โรม เมื่อทราบข่าว ก็ได้มีความเคลื่อนไหวผ่านทาง Twitter @RangsimanRome โพสต์เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.66 เวลา 08.00 น. พร้อมข้อความว่า “ผมทราบข่าวว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน “สวทรงเอ” อุปกิต ปาจรียางกูร ได้ฟ้องผมในคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทและคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายอีกครั้ง คราวนี้เป็นเงิน 20 ล้านบาท โดยอ้างเหตุเดิมๆ ว่าผมยังคงไปพูดเกี่ยวกับการกระทำของเขาอยู่อีกภายหลังจากถูกฟ้องครั้งแรกแล้ว”
ผมก็ยังยืนยันตามเดิมครับว่าสิ่งที่ผมพูดไปเกี่ยวกับ “ส.ว. อุปกิต” เกี่ยวกับขบวนการฟอกเงินค้ายาเสพติดและความไม่ชอบมาพากลในทางคดีที่เกิดขึ้น ผมทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรที่จะต้องคอยติดตามประเด็นปัญหาที่กระทบต่อทั้งพี่น้องประชาชนและกระบวนการยุติธรรม คอยเป็นปากเป็นเสียงให้กับข้าราชการน้ำดีที่ทำงานหลังขดหลังแข็งเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศ คอยตรวจสอบให้กระบวนการทุกอย่างดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น คนทำผิดไม่หลุดรอดลอยนวลไปได้
ซึ่งตั้งแต่เสร็จการอภิปรายทั่วไปเรื่องดังกล่าว (และผมถูกฟ้องครั้งแรก) เป็นต้นมา ก็มีประเด็นและข้อเท็จจริงต่างๆ ปรากฏขึ้นมาที่ทำให้ผมจำเป็นจะต้องพูดถึงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคำให้การของนายตำรวจที่สืบสวนคดี สว ทรงเอ ถูกเปิดเผยออกมา ผมก็จำเป็นต้องหยิบยกมาเพื่อใช้ย้ำเตือนกับสังคมไม่ให้ลืมเรื่องนี้ หรือการที่ ส.ว. อุปกิตเองออกมาแถลงโต้ตอบฝ่ายผม กล่าวหาว่ามีการทำกันเป็นขบวนการเพื่อกลั่นแกล้งเขา ผมก็จำเป็นต้องออกมาชี้แจงกลับเช่นกัน
ผมก็ยังยืนยันว่า ผมพร้อมสู้คดีต่างๆ ที่ถูกฟ้องมา ไม่ว่าจะโดย ส.ว. อุปกิต ในคดีนี้ หรือคดีอื่นๆ ที่ถูกฟ้องโดยมูลนิธิป่ารอยต่อฯ และบริษัทกัลฟ์ฯ และเชื่อมั่นว่าจะชนะคดี
รังสิมันต์ โรม กล่าว
อย่างเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 ที่ผ่านมาซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ผมและทนายก็เดินทางไปพบศาลตามนัด ทว่ายังไม่มีความคืบหน้าอะไรเนื่องจากฝ่าย สว อุปกิต ได้ขอเลื่อนนัดออกไปเอง อ้างว่าติดประชุมกรรมาธิการ (จะนัดไต่สวนอีกครั้ง 26 มิ.ย. นี้)
ในขณะเดียวกันเมื่อไปดูคดีที่ ส.ว. อุปกิตเป็นผู้ต้องหาเองบ้าง ก่อนหน้านี้หลายท่านอาจเคยเห็นข่าวว่าทางอัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องคดี ส.ว. อุปกิตแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั่นยังเป็นเพียงความเห็นของพนักงานสอบสวนที่ได้รับมอบหมาย ที่เห็นควรให้สั่งฟ้องในข้อหาฟอกเงินและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (แต่ไม่มีข้อหายาเสพติด) แต่ยังส่งต่อให้อัยการสูงสุดเพื่อมีคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่อีกทีหนึ่ง ซึ่งกว่าจะมีนัดฟังคำสั่งก็ต้องรอไปถึงวันที่ 26 ก.ค. 66 กว่าจะถึงตอนนั้นสภาก็คงเปิดแล้ว และ ส.ว. อุปกิตก็จะใช้ความคุ้มกันไม่ต้องไปขึ้นศาลได้อีกครั้ง ส่วนทางด้านของการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับคดีโดย ป.ป.ง. และ ป.ป.ส. ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ก็ยังคงเงียบกริบเช่นกัน เพราะฉะนั้นไหนๆ แล้วก็อยากขอถามความคืบหน้าจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามที่ว่ามาด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 นายอุปกิต ได้ฟ้องร้องนายรังสิตมันต์ โรม คดีหมิ่นประมาท โดยเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท และวันที่ 31 มกราคม 2566 ฟ้องร้องนายอัจฉริยะ คดีหมิ่นประมาทเช่นเดียวกันโดยเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ซึ่งคดีทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
