“วัน อยู่บำรุง” ตัดสินใจ เซ็นลาออก จากพรรคเพื่อไทย หลังไม่เข้าตาผู้ใหญ่ ยืนยัน! จะทำงานการเมืองต่อไป ยังไม่ปิดตำนานใจถึงพึ่งได้
วันที่ 15 ก.ค. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวัน อยู่บำรุง ได้เข้ายื่น หนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ต่อเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยยื่นผ่านทางสำนักงาน กกต. โดยมีผลทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นหนังสือลาออกของนายวัน สืบเนื่องมาจากการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนนายชาญ พวงเพ็ชร์ ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แต่ปรากฏว่า นายวัน ได้เดินทางเข้า-ออกบ้านของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รวมถึงวันที่จัดให้มีการเลือกตั้งด้วย เป็นเหตุให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เรียกเข้าไปตำหนิ
จากนั้นนายวันได้ประกาศลาออกจากการเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และลงนามในหนังสือลาออกเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย กระทั่งได้มีการเข้ายื่นหนังสือลาออกต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
หลังจากนั้น ได้ให้มีการสัมภาษณ์ นายวัน อยู่บำรุง กล่าวว่า ขอเรียนกับหัวหน้าพรรค ว่าครอบครัวอยู่บำรุงจงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ไม่เคยคิดทรยศ ตนเองอาจจะคิดไม่รอบคอบ คิดไม่ถึงว่ามีภาพตนเองออกไปในวันนับคะแนน จะทำให้พรรคและผู้บริหารไม่สบายใจ ครอบครัวอยู่บำรุง กับ ครอบครัวธูปกระจ่าง รู้จักมักคุ้นชอบพอกันมาหลายสิบปี ที่ตนเองไปก็เป็นเวลาปิดหีบแล้ว ประมาณ 20.00 น. ไม่มีผลต่อคะแนน เป็นการให้กำลังใจระหว่างอา-หลาน

บทสนทนาในวันนั้น ยังมีอีกหลายประโยคที่สื่อมวลชนยังไม่ทราบ นั่นก็เป็นเหตุให้ตนเองตัดสินใจขอลาออก เพราะไม่อยากพูดอะไรแล้ว อยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์
“วันนี้ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพราะเมื่อไม่เข้าตาผู้ใหญ่ ท่านไม่แฮปปี้ ผมก็ไม่สบายใจ ถ้าไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค เวลาพรรคมีกิจกรรม ผมก็ต้องไปร่วมงาน ผมคงไม่หน้าด้านพอที่จะไปเกะกะ รกหูรกตาผู้ใหญ่ ผมก็แค่ สส.กทม.สอบตก แต่ที่สอบตก ต้องอย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยได้ สส.กทม.คนเดียว พรรคเพื่อไทยต้องกลับไปพิจารณาว่านโยบายหาเสียงของพรรคเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้ สส.กทม. คนเดียว ไม่ใช่ความผิดของผู้สมัคร” นายวัน อยู่บำรุง กล่าว

ไม่ทราบว่ากรณีของตนเองเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ตนเองรู้ว่าผิดก็ไปมอบตัว ก็เข้าไปอธิบาย แต่ไม่คิดว่าจะมีความผิดเพียงนี้ มากสุดคงโดนตำหนิติเตือน และคาดโทษ ไม่คิดเลยว่าจะบานปลาย
คนที่ไม่เข้าตาอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญตระกูลอยู่บำรุงประจบสอพลอใครไม่เป็น และ ตนไม่ขอเปิดเผยว่าคำพูด ของนางสาวแพทองธาร กระทบไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือไม่ โดยยืนยันว่าวันที่บอกว่าจะลาออก หัวหน้าพรรคไม่ได้รั้ง และไม่ได้พูดอะไรเลย วันที่ไปพูดคุยด้วยกันไม่ได้คิดจะออก คนเราอยากมีตำแหน่งตนเองก็อยากมีตำแหน่ง ไม่ยึดติดแต่เมื่ออยู่ไปแล้วไม่มีความสุข จะไปเสนอหน้าอย่างไร

ตนเองเป็น สส.สอบตกคงไม่มีภาษีราคาค่างวดอะไร ตนเองยังยืนยันจะทำงานการเมืองต่อไป พรรคใดที่เห็นว่าตนเองมีประโยชน์ก็ลองติดต่อมา เพราะว่าตอนนี้เป็นนักการเมืองฟรีเอเจนท์ ตอนนี้ยังไม่ได้เล็งพรรคใด ยืนยันว่าครอบครัวอยู่บำรุง รักชาติ ศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังไม่ปิดตำนานใจถึงพึ่งได้ ยังช่วยเหลือสังคมต่อไป
เมื่อถามถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นาย วัน อย่บำรุง กล่าวว่า เป็นพี่ที่รักเคารพ เพราะตนเองมีตำแหน่งการเมืองครั้งแรกปี 2551 เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติงานกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล มีความผูกพัน เมื่อ 2 เดือนก่อนก็ไปเยี่ยมท่าน เคารพกันรู้จักนายอนุทินมาตั้งแต่ปี 2538-2539
ส่วน จะกลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวัน อยู่บำรุง กล่าวว่า เลยไปไกลแล้ว ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ต้องมาทบทวนตนเอง ยืนยันว่ายังทำงานการเมืองต่อไป พร้อมกับขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่พรรคเพื่อไทยเคยให้โอกาสตนเองตั้งแต่พรรคพลังประชาชนจนถึงพรรคเพื่อไทย ทุกวันนี้ตนเองก็ยังรักพรรคเพื่อไทย รักผู้บริหารพรรคทุกท่านอยู่เสมอ เหมือนเดิมแต่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ยังรักเอ็นดูตนเองหรือไม่ ตนเองก็ต้องมีทางเดินของตนเอง เมื่ออยู่แล้ว เขาไม่แฮปปี้ ตนเองไม่สบายใจก็ต้องถอยดีกว่า