ลูกชายเจ้าของตึกร้างสาทร ยูนีค เคลียร์ชัด หลังสื่อกระพือข่าว ปิดดีลขายตึกได้แล้ว 4,000 ล้านบาท ลั่น ถ้ามันจบง่าย คงไม่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ต้มยำกุ้งมานาน 30 ปี
หลังจากตั้งตระหง่านเป็นตำนานมาอย่างยาวนานและผ่านพ้นเหตุการณ์แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ 28 มี.ค. 2568 มาได้จนถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์อีกครั้ง ก็มีสื่อหลายสำนักรายงานข่าวการปิดดีลขายตึกร้างในตำนานโครงการ “สาทร ยูนีค” มูลค่า 4,000 ล้านบาท จนกลายเป็นกระแสฮือฮา
แต่ล่าสุด ลูกชายของ อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เจ้าของตึกร้างดังกล่าว ได้โพสต์ชี้แจงผ่าน Facebook : Tampote Torsuwan วันที่ 2 เม.ย. 68 ยืนยันว่า เรื่องการประกาศขายตึกนั้นไม่เป็นความจริง คุณพ่อไม่ได้ประกาศขาย ซึ่งข้อเท็จจริงทั้งหมดตามโพสต์มีดังนี้

“วันนี้โทรศัพท์เข้าจนสายแทบไหม้
ตั้งแต่ข่าวเรื่องประกาศขาย คุณพ่อ (อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ) ไม่ได้เป็นผู้ประกาศขายนะครับ
ตึกนี้มีข้อพิพาทและคดีความมากมายหลายอย่าง กระบวนการทางกฎหมายที่ฉ้อฉลยึดทรัพย์ภาคเอกชนผ่องถ่ายไปองค์กรข้ามชาติแล้วฟอกทรัพย์กลับมาเข้ามือกลุ่มทุนสามานที่เป็น deep stage ของประเทศนี้ คุณพ่อและคุณแม่ต่อสู้กับกระบวนการฉ้อฉลปล้นชาตินี้มายาวนานร่วม 30 ปี
Fact ที่หลายคนอาจไม่รู้ ห้องชุดในตึกนี้ได้ขายไปแล้วมากกว่า 90% ตั้งแต่เปิดขายเมื่อ30กว่าปีที่แล้ว กลุ่มทุนสามานนี้ไม่ได้ปล้นเฉพาะ Developer แต่ปล้นคนซื้อทุกคน โอนถ่ายทรัพย์ไปมาเพื่อเขย่าให้ตึกนี้กลายเป็นตึกเปล่าที่ยังไม่มีใครซื้อ ซื้อถูก-ฟอกขาว-เขย่าให้เป็นตึกเปล่า นี่คือสิ่งที่ทุนสามานทำกับทุกตึกทุกอาคารที่โดนโยนลงหม้อต้มยำกุ้ง
เรื่องราวการต่อสู้ของท่านทั้ง 2 ยังคงดำเนินอยู่ และผมเชื่อว่าจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่
การประกาศขายไม่ได้มาจากคุณพ่อ และท่านไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครเกี่ยวกับตึกนี้ในการขาย ช่วงระยะหลังท่านสุขภาพไม่ค่อยดี ท่านพักผ่อนเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ

โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว ถ้าปัญหาตึกนี้มันจบง่าย มันคงไม่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ต้มยำกุ้งมานาน 30 ปี”