มือปืน กราดยิงซูเปอร์มาร์เก็ต ดับสลด 10 ราย ตำรวจเผยเป็นพวกเหยียดผิว ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทราบเรื่องแล้ว
จากกรณีที่วานนี้ 14 พ.ค. 65 ได้เกิดเหตุกราดยิงขึ้น ในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย และบาดเจ็บอีก 3 ราย ล่าสุดวันนี้ 15 พ.ค. 65 กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ (DOJ) กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุกราดยิงในเมืองบัฟฟาโลของรัฐนิวยอร์ก ฐานเป็นอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง
แถลงการณ์จากเมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ เมื่อคืนวันเสาร์ (14 พ.ค.) ระบุว่าสหรัฐฯ ร่วมอาลัยเหยื่อจาก “เหตุกราดยิงอันบ้าคลั่งและน่ากลัว” โดยกระทรวงฯ กำลังสอบสวนเรื่องนี้ฐานเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง และการกระทำของกลุ่มหัวรุนแรงที่มุ่งเป้าไปที่เชื้อชาติ
การ์แลนด์ให้คำมั่นตรวจสอบคดีความดังกล่าวอย่างละเอียดและรวดเร็ว และแสวงหาความยุติธรรมแก่เหยื่อผู้บริสุทธิ์ พร้อมเสริมว่าขณะนี้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลาง ซึ่งรวมถึงเอฟบีไอ (FBI) กำลังทำงานร่วมกับสำนักตำรวจเมืองบัฟฟาโลและหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อบ่ายวันเสาร์ (14 พ.ค.) มือปืน ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมตัว สวมเสื้อผ้าคล้ายทหารและใช้ปืนไรเฟิลกราดยิงในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองบัฟฟาโล ซึ่งคนร้ายได้มีการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายหนึ่งแต่เนื่องจากคนร้ายใส่เกราะยิงไม่เข้า เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด จากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บที่ไม่อันตรายถึงชีวิตอีก 3 ราย โดยเหตุกราดยิงครั้งนี้ยังถูกถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์มเกมรายการหนึ่งอีกด้วย
โจเซฟ กรามาเกลีย ผู้บังคับการตำรวจเมืองบัฟฟาโล เผยว่าเหยื่อทั้ง 13 ราย เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา 11 ราย ขณะอีก 2 รายเป็นคนผิวขาวทวิตเตอร์ทางการของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ระบุว่าอเลฮันโดร มายอร์กาส รัฐมนตรีกระทรวงฯ รับทราบเหตุกราดยิงข้างต้นแล้ว โดยกระทรวงฯ กำลังเร่งประสานงานหน่วยงานท้องถิ่น รัฐ และรัฐบาลกลางที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะเดินหน้าสนับสนุนการจัดการคดีนี้อย่างเต็มที่

ขณะเดียวกันทำเนียบขาวเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น “เหตุกราดยิงอันน่ากลัว” โดยคารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกประจำทำเนียบขาว ระบุว่าโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะได้รับข้อมูลอัปเดตตลอดช่วงเย็นและวันถัดไป อีกทั้งเสริมว่าตอนนี้ประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกำลังสวดภาวนาแก่ผู้เสียชีวิตและคนที่พวกเขารัก
ขอบคุณข้อมูล xinhuathai