ช้างป่า”สีดอชมพู” อาการยังทรงตัวแต่มีสัญญาณที่ดีขึ้นมาบ้าง หลังพยายามใช้ขาหลังดันตัวเอง ทีมสัตวแพทย์ได้การยารักษาต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยในวันนี้ทีมสัวแพทย์ได้ทำการสวนทหารเพื่อตรวจสอบภายใน
นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปางกำลังสวนทวารช้างป่าสีดอชมพู หลังจากที่ได้นำตัวมารักษาแล้วไม่เคยขับถ่ายแม้แต่ครั้งเดียว
วันนี้ทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปางได้ทำการสวนทวาร ช้างป่าสีดอชมพู เพื่อนำอุจจาระที่ค้างอยู่ข้างในออก เนื่องจากช้างไม่มีการถ่าย และจะทำการส่องกล้องอัลตราซาวด์ภายในว่ามีของเหลว หรือสิ่งแปลกปลอมค้างอยู่ในช่องท้องหรือไม่ รวมทั้งอาจต้องทำการสวนปัสสาวะออกมาตรวจด้วย
ขณะเดียวกันระหว่างที่ใช้รถเครนยกช่วงหลังของช้างขึ้นเพื่อทำการสวนทวารนั้น ช้างได้แสดงอาการพยายามใช้ขาหลังดันตัวขึ้นบ้าง แต่ด้วยความที่อ่อนแรงมาก จึงไม่สามารถขยับได้มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในระดับหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลช้างจึงได้นำน้ำมันมวยเข้ามานวดบริเวณช่วงก้นและขาหลังทั้งสองข้างของช้าง เพื่อให้ความร้อนของน้ำมันช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะใช้รถเครนยกลำตัวช้างขึ้นทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ช้างได้ใช้ขาหน้าพยุงตัวเองและจะได้มีการใช้กำลังขาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง ได้ทำการรักษาสีดอชมพูอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีการให้ยา สารอาหาร วิตามิน ผ่านทางสายน้ำเกลือ และต้องมีการให้น้ำเกลืออย่างต่อเนื่องวันละ 200 ลิตร หรือเท่ากับ 200 กระปุกต่อวัน เนื่องจากสีดอชมพูกินอาหารได้เล็กน้อย และไม่ยอมกินน้ำตั้งแต่รับตัวเข้ามารักษา คาดว่าเกิดจากการระแวงและไม่คุ้นเคยกับคนและสถานที่
โดยนายสัตวแพทย์ทวีโภค อังควานิช สัตวแพทย์ประจำศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย กล่าวว่า หลังจากตรวจพบว่าช้างมีเลือดออกบริเวณไขสันหลัง ทางทีมสัตวแพทย์ได้รักษาโดยการให้ยาปฎิชีวนะ สารน้ำ สารอาหาร อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องดูอาการติดต่อกันอย่างน้อย 5 วัน ซึ่งตอนนี้ถือว่าผลการรักษายังไม่เป็นที่น่าพอใจ และยังตอบไม่ได้ว่าช้างมีปัญหาทางด้านกระดูกหรือไม่ เนื่องจากการเอ็กซเรย์ยังไม่สามารถลงไปถึงชั้นที่ลึกขนาดนั้นได้
