1 ก.พ.60 พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร ผบ.ฉก.ทพ.47 เดินทาง เข้าพบครอบครัว นางฮามีด๊ะ สาและ เพื่อกำหนดวันทำบุญให้สามีของเธอซึ่ง นางฮามีด๊ะ หญิงไทย 1 ใน 12 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่มาเลเซียปล่อยตัวกลับบ้านหลังควบคุมตัวเป็นพยานในคดีค้ามนุษย์ และระหว่างถูกจับสามี นางฮามีด๊ะ ได้เสียชีวิตลง นอกจากนี้ พ.อ.ชลัช ยังได้เข้าเยี่ยม น.ส.สะละมา บาโล อายุ 51 ปี , นางลีหม๊ะ เจะโด อายุ 65 ปี และ นางลิเยาะ สุหลง อายุ 82 ปี ในพื้นที่ อ.กาบัง จ.ยะลา อีกด้วย
พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร ผบ.ฉก.ทพ.47 กล่าวว่า นางฮามีด๊ะ ยังเศร้าที่ต้องเสียสามีไป พร้อมยืนยันว่า จะช่วยติดตามเรื่องเงิน 7 หมื่นบาทในเรื่องอาชีพ ส่วนการจัดงานทำบุญให้สามีของ นางฮามีด๊ะ ตอนนี้ทางครอบครัวขอหารือกับผู้นำชุมชนว่าจะพร้อมจัดวันไหน มองว่าจะต้องให้กำลังอย่างใกล้ชิดและต้องสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับพวกเขาได้ทำงานอยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปมาเลเซียอีก
พ.อ.ชลัช ยังกล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสเข้าไปคุยผู้หญิง 4 คนจาก อ.กาบัง และ อ.ยะหา จ.ยะลา ที่อยู่ในความดูแลของหน่วยเฉพาะกิจ 47 หลังเดินทางกลับมาจากมาเลเซีย โดยรวมแล้ว สาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องไปทำงานที่มาเลเซีย พบว่า พวกเขาไม่มีงานในพื้นที่ และการเดินทางก็ไปอย่างผิดกฎหมายจึงทำให้เจอปัญหาอย่างที่เห็น หลังจากนี้จะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดระบบแรงงานมาเลเซียให้สามารถไปอย่างถูกกฎหมายให้ได้ อะไรที่เป็นช่องว่างทำให้เขาไม่สามารถขอใบอนุญาตไปทำงานในมาเลเซีย เราก็ต้องมาดูและแก้ไขปัญหาเพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เขาได้เดินทางอย่างถูกกฎหมาย
ขณะที่ นางฮามีด๊ะ สาและ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจและขอบคุณผู้การทหารพราน 47 มากที่เป็นหน่วยแรกเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ ชาวบ้านที่นี้ดีใจมากพอรู้ว่าผู้การทหารพราน 47 จะเป็นเจ้าภาพจัดงานทำบุญให้สามี เพราะยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแบบนี้ในพื้นที่ ทำให้ทุกคนที่รู้ข่าวต่างชื่นชมผู้การทหารพราน 47 อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใหญ่หรือเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาเยี่ยมเลย มีแต่ของ ศอ.บต. ที่มารับตัวไปสอบปากคำที่ จ.ยะลา นอกนั้นไม่มีใครมานอกจาก พ.อ.ชลัช ตนเองรู้สึกตกใจจนทานข้าวไม่ลงเลยพอรู้คนที่จะมา เป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้ใหญ่ เพราะตั้งแต่กลับมา 1 สัปดาห์ไม่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยไหนมาเยี่ยมเลย
