หนุ่มวัยเบญจเพศ รอดปาฏิหาริย์เกาะแกลลอน 5 ลิตร ลอยคอกลางทะเล 15 ชม. ก่อนที่เรือน้ำมันมาพบและช่วยเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเวลา 21:30 น. ของวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี เข้ารับตัว นายสมจิตต์ พลทรักษา อายุ 25 ปี จากเรือบรรทุกน้ำมันพืช โอเชี่ยนมารีน ที่เทียบท่าเรือพี.เค. บริษัท พี.เค มารีน เทรดดิ้ง จำกัด บริเวณคลองท่าทอง ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำตัวส่งญาติ หลังนายสมจิตต์ ลูกเรือประมงอวนล้อม พรมานะชัย 99 ได้ตกจากเรือในช่วงเวลา 19:00 น. วันที่ 21 ก.ค. โดยที่ไม่มีลูกเรือคนใดรู้ว่ามีคนตกเรือเนื่องจากมีคลื่นลมแรง ก่อนที่จะมาพบตัวในช่วงเช้าของวันที่ 22 ก.ค.
โดย พ.ต.ท.มานพ มีแสง รองผู้กำกับการ กองกำกับการ 6 สถานีตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากเรือประมง พรมานะชัย 99 ว่ามีลูกเรือตกทะเลช่วงบริเวณเกาะเต่า แต่ไม่ทราบว่าตรงจุดใด ประกอบกับเป็นช่วงกลางคืนจึงไม่สามารถระบุตำแหน่งได้แน่ชัดได้ จึงแจ้งข่าวไปยังเรือประมงและเรือสินค้าต่างๆ ที่สัญจรเส้นทางดังกล่าวให้ช่วยกันตรวจสอบเพื่อหาตัวลูกเรือรายนี้ ก่อนที่จะมีเรือน้ำมันพบตัวและช่วยเหลือไว้ได้
ทางด้าน นายปานนพ ศรพรม นายท้ายเรือที่เข้าเวรขับเรือน้ำมัน โอเชี่ยนมารีน ของบริษัท พี.เค มารีน เทรดดิ้ง จำกัด ในช่วงเช้าวันที่ 22 ก.ค. เล่าว่า ขณะกลับจากส่งน้ำมันพืชที่ท่าเรือในจังหวัดสมุทรสาคร เวลาประมาณ 09:00 น. สายตาก็มองเห็นสิ่งแปลกปลอมในท้องทะเล จึงส่องกล้องดูจนพบว่าเป็นคนลอยคออยู่โดยมีแกลลอนลูกเล็กๆ ติดตัวจึงเข้าให้การช่วยเหลือ
ซึ่งหลังจากที่นายสมจิตต์ ขึ้นมาบนเรือได้ ก็ได้รับประทานอาหารและนอนพักผ่อน หลังจากนั้นก็ลงจากเรือด้วยอาการที่เป็นปกติ ร่างกายแข็งแรง พร้อมเล่าว่าในช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงค่ำ มีคลื่นลมแรง ตนได้ลื่นคานสแตนเลสตกลงไปในน้ำ โดยไม่มีใครเห็น จากนั้นก็ลอยคออยู่กลางทะเลนานร่วม 30 นาที ก่อนที่จะไปเจอกับทุ่นของชาวประมงที่วางลอบ จึงจับทุ่นไว้และดำน้ำลงไปประมาณ 2 เมตร เพื่อเอาแกลลอนน้ำมันผูกติดอยู่กับทุ่นดังกล่าวมาช่วยในการพยุงตัว และลอยคออยู่กับทุ่นเพราะคิดว่าเมื่อชาวประมงมาเก็บลอบก็จะมีคนช่วย แต่ระหว่างที่รอก็มีเรือประมงผ่านบ้าง พยายามเรียกแต่ก็ไม่มีใครได้ยินและเห็นเพราะเป็นช่วงกลางคืน แต่ในใจของตนก็เชื่อมั่นว่ามีแกลลอน ยังไงก็ต้องรอดและต้องมีคนมาพบ ซึ่งในรุ่งเช้าก็มีคนมาเจอและช่วยไว้ได้ในที่สุด
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือว่านายสมจิตต์ มีสติและเชื่อมั่นที่จะรอดชีวิตจากการตกเรือ อีกทั้งมีความอดทนแม้จะต้องลอยอยู่ในน้ำทะเลนานประมาณ 15 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากรับตัวและสอบสวนเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้ให้ญาติของนายสมจิตต์ นำตัวกลับภูมิลำเนา ที่ตำบลลิ้น อ.เมือง จ.ระนอง ต่อไป