เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึกเมื่อพ่อใจกล้าทุบกระจกรถกระบะช่วงลูกสาววัย 1 ขวบที่ติดอยู่ภายในรถ สุดท้ายใช้เวลา 15 นาทีช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางชาวบ้านที่คอยลุ้นให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
นายจอม สายจันทร์ยนต์ อายุ 35 ปี ชาว ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี กำลังใช้ประแจเลื่อนทุบกระจกรถปิคอัพ อีซูซุ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน ผค-1894 อุดรธานี ที่จอดอยู่ริมถนนหมากแข้ง หน้าบ้านห้วยการแพทย์ ภายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังจากเกิดเหตุเด็กเล็กติดอยู่ภายในรถเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองอุดรธานี ประสานช่างทำกุญแจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้ามาให้การช่วยเหลือ จนผ่านไป 15 นาที ช่างทำกุญแจยังไม่มาถึงประกอบกับเด็กร้องไห้ ด้วยอาการตกใจและอากาศเริ่มร้อน เนื่องจากรถไม่ได้ติดเครื่องเปิดแอร์ไว้ นายจอม ที่กำลังกระวนกระวาย ตัดสินใจใช้ประแจเลื่อนของพลเมืองดีให้ยืมทุบกระจกแค๊ปด้านซ้ายไป 3 ครั้งแต่กระจกไม่แตก
จากนั้นพ่อของเด็กที่อยู่ในรถ เปลี่ยนให้เจ้าของประแจเลื่อนทุบกระจกไปอีก 3 ครั้ง กระจกแตกละเอียด และช่วย ด.ญ.โฟร์โมสต์ อายุ 1 ขวบ 3 เดือน ออกมาจากรถอย่างปลอดภัย ซึ่งทันทีที่ออกมาจากตัวรถ ชาวบ้านที่คอยลุ้นให้การช่วยเหลือพากันเรียกขวัญให้ น้องโฟร์โมสต์ ตามประเพณีของชาวอีสาน ว่า “ขวัญเอยมาเด้อ” โดยมี น.ส.เฉลียว อายุ 37 ปี แม่ของ น้องโฟร์โมสต์ เข้าไปอุ้มมาปลอบขวัญด้วยความดีใจและสงสารลูกสาวจนต้องหลั่งน้ำตา
สอบถามพ่อและแม่ของน้องโฟร์โมสต์ เล่าว่า วันนี้พาพ่อแม่มาตรวจสุขภาพตามหมอนัด ขณะรอบัตรคิว ลูกสาวร้องไห้งอแงเนื่องจากง่วงนอน แม่ของน้องโฟร์โมสต์ จึงบอกให้สามีอุ้มลูกไปนอนในรถ แต่เนื่องจากลูกสาวหิวนมจึงวางลูกไว้ที่เบาะหน้าฝั่งซ้าย และลืมวางกุญแจรถแบบรีโมทไว้บนเบาะ เพื่อเดินออกไปหยิบขวดนมที่วางอยู่ในแค๊ปด้านหลังที่นั่งคนขับ ทันทีที่ปิดประตู ลูกสาวได้กดกุญแจรีโมทล็อกประตู ตนเองไม่รู้จะทำยังไงและมองไปในรถก็เห็นแต่ลูกร้องให้
หลังจากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ช่วยประสานช่างกุญแจมาเปิดประตูรถช่วยเหลือลูกออกมา แต่ด้วยความเป็นพ่อเห็นลูกร้องไห้อย่างน่าเวทนา จึงตัดสินใจขอยืมประแจเลื่อนทุบกระจกรถเพื่อช่วยเหลือลูกออกมา เพราะเกรงว่าลูกจะได้รับอันตรายอย่างที่เคยเห็นในข่าว แม้ว่ากระจกแค๊ปของรถจะมีราคา 1,200 บาท แต่เทียบกันไม่ได้เลยกับชีวิตลูกของตนเอง