ความคืบหน้าหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ก้อป แก้ป” โพสต์เล่าเหตุการณ์เตือนภัยสังคมถูก 2 หนุ่มชายรักชายพยายามข่มขืนในห้องน้ำปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ ขณะที่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ โชคดีที่รีบหนีออกมาจากห้องน้ำได้ทัน ก่อนจะนำเรื่องราวมาโพสต์เตือนชายหนุ่มให้ระวังตัวในขณะเข้าห้องน้ำ จนกลายเป็นข่าวโด่งดังตามสื่อต่าง ๆ มาวันนี้ กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ! เมื่อมีหนุ่มพิการทางการได้ยินเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่าตัวเองรอเข้าห้องน้ำนานจนทนไม่ไหว ก็เลยเร่งอีกฝ่ายเอาถุงยางอนามัยสอดเข้าไปแทนกระดาษ เป็นการสื่อสารที่ไม่เคลียร์จนอีกฝ่ายเข้าใจผิด
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา แต่ว่าบ่ายวันนี้ 19 มกราคม มีตัวละครใหม่เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เชิญตัว นายสิทธิพงษ์ แก้วจา อายุ 32 ปี ชาว จ.ลำพูน ซึ่งเป็นหนุ่มพิการทางการได้ยิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมันว่า ชายคนนี้คือคนที่พยายามลวนลามนักเรียนหนุ่มชั้น ม.5 ในห้องน้ำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียก นายกอล์ฟ อายุ 19 ปี มาให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งหนุ่มผู้พิการทางการได้ยินได้เชิญ ครูนิรันดร อุปนันท์ ครูจากโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จ.เชียงใหม่ ที่เคยสอน นายสิทธิพงษ์ ตั้งแต่เด็ก ๆ เดินทางมาแปลภาษามือให้ปากคำโดยยืนยันว่า นายสิทธิพงษ์ เป็นใบ้จริงๆ
เบื้องต้นหนุ่มผู้พิการให้การกับเจ้าหน้าที่ผ่านการแปลโดย ครูนิรันดร ทราบว่า ในวันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันเพียงคนเดียว แต่รออยู่นาน คนที่ใช้ห้องน้ำอยู่ (นายกอล์ฟ) ก็ยังไม่ออกมาจนทนไม่ไหว ครั้งแรกใช้เท้าแหย่เข้าไปใต้ประตูแต่ชายที่อยู่ในห้องน้ำก็ยังไม่ยอมออกมา จึงได้ใช้ถุงยางอนามัยที่พกติดตัวมาแสดงเป็นสัญลักษณ์อีกครั้ง กระทั่งชายที่เข้าห้องน้ำอยู่เดินออกมา ตนจึงรีบเดินเข้าห้องน้ำไป
ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด นายสิทธิพงษ์ ชอบผู้หญิงไม่ได้เป็นเกย์แต่อย่างใด และให้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากผู้พิการทางการได้ยินต้องการจะเข้าไปภายในห้องที่ปิดประตูอยู่จะไม่ใช้วิธีเคาะประตูเพราะจะไม่ได้ยินเสียง ก็เลยต้องใช้วิธีสอดกระดาษเขียนข้อความหรือสิ่งของอื่น ๆ เข้าไปใต้ประตู
หลังสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คู่กรณีทั้งสองไม่ติดใจเอาความกัน เจ้าหน้าที่จึงว่ากล่าวตักเตือน นายศุภกร ที่โพสต์ข้อความโดยไม่มีการตรวจสอบจนเกิดความเข้าใจผิดและส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ส่วน นายสิทธิพงษ์ ตำรวจตั้งข้อหา”ก่อความเดือดร้อนคำราญในห้องน้ำสาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท