กรมประมงนำเรือลงสุ่มตรวจกลุ่มทำการประมงผิดกฎหมายใช้คราดจับลูกบอลทะเลกลางดึก แต่ต้องผิดหวังไร้วี่แววการลักลอบจับลูกบอลทะเล ด้านเจ้าหน้าที่คาดว่าข่าวรั่ว
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ สตูล กรมประมง นำกำลังลงเรือตรวจการณ์สุ่มตรวจในน่านน้ำ หลังจากพบว่ามีกลุ่มประมงลักลอบใช้คราด เครื่องต้องห้ามที่ผิดกฎหมาย เพื่อจับลูกบอลทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลตระกูลเดียวกับ “ปลิงทะเล” จะมีชุกชุมในทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นอาหารที่ชาวเวียดนาม และชาวจีนต้องการอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่าเป็นยาโด๊ปชนิดหนึ่ง และมีการรับซื้อเพื่อส่งออกไปขาย โดยปัจจุบันราคารับซื้อสูงถึงกิโลกรัมละ 70-100 บาท ส่งผลใ ห้ชาวประมงในจังหวัดสตูล หันทำอาชีพจับลูกบอลทะเลกันมากขึ้น รวมทั้งมีเรือ 2 สัญชาติจากประเทศมาเลเซียลักลอบเข้ามาจับในพื้นที่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ล่องเรือผ่านความมืดกลางทะเลไปยังบริเวณเกาะสาหร่าย / ตันหยงโป / เกาะยาว / และเกาะปูยู ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทางทะเลของอำเภอเมือง จังหวัดสตูล แต่ไม่พบการลักลอบกระทำผิดแม้สักลำ จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า กลุ่มประมงผิดกฎหมายรู้ข่าวล่วงหน้า จึงได้ไหวตัวทันไม่กล้าก่อเหตุ
สำหรับปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้ ได้นำข้อกฎหมายในคำสั่ง คณะกรรมการประมงจังหวัดสตูล เรื่องกำหนดเครื่องมือทำการประมงวิธีการทำประมง และพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงที่จับสัตว์น้ำ พ.ศ.2560 ที่ลงคำสั่งว่า ปัจจุบันพบชาวประมงดันแปลงเครื่องมือทำการประมงประเภทคราดกับประมงเรือยนต์ทำการประมง คราดปลิงทะเล และหอยทะเล ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวทำให้เป็นการขุดพลิกพื้นที่ดินท้องทะเล ทำให้เกิดการทำลายต่อหน้าดิน หญ้าทะเล ปะการัง อันเป็นที่วางไข่และเลี้ยงตัววัยอ่อนของสัตว์น้ำ และก่อให้เกิดปัญหาทรัพยากรเสียหาย จึงอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการประมง ลงปราบปรามเพื่อดำเนินการจับกุม
ด้าน นายโชคชัย เมืองสง ผู้ช่วยชุดหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ สตูล เปิดเผยว่า ภารกิจในครั้งนี้ที่ต้องคว้าน้ำเหลว เพราะน่าจะเป็นไปได้ว่าอาจจะมีข่าวรั่ว จึงทำให้กลุ่มทำการประมงผิดกฎหมายไม่ออกจับ ลูกบอลทะเลไปขายให้กับนายหน้าที่มารับซื้อ มีเพียงเรือตกกุ้งของชาวประมงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าจับตากลุ่มประมงอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ลักลอบกระทำความผิด และหากพบว่ามีการลักลอบกระทำการจับลูกบอลทะเล ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป