สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) มีพิธีถวายบังคม และถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตชั้นปีที่ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีภาพออกมาว่าอาจารย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง ไปล็อคคอนักศึกษาระหว่างพิธี ทำให้มีกระแสถึงการกระทำดังกล่าวทั้งฟากฝั่งของอาจารย์ และฝั่งนายเนติวิทย์ ประธานสภานิสิตจุฬาฯ ออกมาตอบโต้กัน
ล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.) ทีมข่าวไบรท์นิวส์ได้เดินทางไปที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสอบถามความคืบหน้าจากกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ซึ่งทางรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตจุฬาฯ ก็ยืนยันว่าเหตุการณ์เมื่อวานเกิดขึ้นขณะที่ใกล้เสร็จสิ้นพิธีแล้ว และใครที่ไม่ประสงค์จะถวายบัฃคม หรือเข้าร่วมพิธีก็ไม่ได้บังคับแต่อย่างใด
รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ในช่วงพิธีถวายสัตย์ปฏิญานตนของนิสิตใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า เมื่อเป็นนิสิตใหม่เข้ามาอยู่จุฬาฯ ซึ่งเป็นสถาบันของ รัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาประดิษฐานขึ้น จึงอยากให้นิสิตมาถวายตัวเป็นมหาดเล็กตามทำเนียมโบราณ พอมีอนุสาวรีย์ 2 รัชกาลก็จึงให้มาทำพิธีบริเวณนี้ ซึ่งพิธีนี้ไม่ได้ทำเพียงครั้งเดียว ปกติแล้วตอนเรียนจบก็ต้องมาถวายบังคมลา เพื่อให้เกิดสิริมงคลในการไปประกอบอาชีพ
ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ เนื่องจาก มีฝนตกลงมา คณะกรรมการองค์การบริหารนิสิตจุฬา (อบจ.) ซึ่งเป็นคนดูแลกิจกรรม จึงตัดสินใจว่าฝนยังไม่ตกหนักมาก ยังพอรับได้จึงทำพิธีต่อ และระหว่างทำพิธีก็มีการแจกเสื้อฝนซึ่งเพียงพอให้กับนิสิตทุกคน จากนั้นเด็กก็ใส่เสื้อฝนและทำพิธีต่อ พอพิธีจบก็แยกย้าย ซึ่งใช้เวลาไม่นานในการทำกิจกรรม จากนั้นนายเนติวิทย์ ซึ่งเป็นสภาประธานนิสิตฯ ก็พาทีมงานออกมาถวายคำนับ หลังจากเสร็จจึงเดินออกจากพิธีไป ระหว่างที่เดินออกไปนั้น ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งไปล็อกคอนิสิตไว้ได้ 1 คน ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกไป เพราะก่อนหน้านี้อาจารย์พยายามห้ามด้วยคำพูดสอบถามแล้วว่าจะออกไปทำอะไร ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย และอาจารย์ท่านนั้นก็อยากให้พิธีออกมาเรียบร้อย จนถึงตอนนี้อาจารย์มีอาการเครียดจนต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด คือ ช่วงที่การถวายสัตย์ปฏิญาณจบลงแล้ว แล้วนิสิตทั้งหมดกำลังนั่งลง ส่วนกลุ่มเนติวิทย์ทั้งหมด 7 คน จึงเดินออกมา จึงเป็นภาพดังกล่าว และพิธีก็จบลงเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีการร้องเพลงมหาจุฬาต่อ เนื่องจาก ฝนตกลงมาอย่างหนัก
ทั้งนี้ รองอธิการบดียืนยันว่า ไม่มีการหมอบกราบ เพราะได้ตัดพิธีออกไปแล้ว และองค์การนิสิตฯ ก็ทำแผนสำรองในขณะที่ฝนตก และได้ถวายบังคม และกล่าวคำปฏิญาณ ระหว่างจัดแถวก็จะมีการแจ้งสอบถามกับเด็กแล้ว ว่าใครไม่ประสงค์จะถวายความบังคมให้แยกออกไปได้เพื่อจัดพื้นที่ให้รอ และจะพาไปถวายคำนับที่พระราชานุสาวรีย์ หลังเสร็จสิ้นพิธีแต่เมื่อวานนี้ไม่มีใคร ไม่ประสงค์จะเข้าร่วมพิธี
หลังจากนี้จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบจริยธรรม และมารยาทของอาจารย์และเนติวิทย์ โดยวันจันทร์จะมีการหารือถึงการสอบจริยธรรมอีกครั้ง
ทั้งนี้ รองอธิการบดียอมรับด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ก็ยังต้องคงประเพณี และยังยึดมั่นทำต่อไป เพราะจุฬามาจากที่เป็นโรงเรียนมหาดเล็ก พัฒนามาเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ รัชกาลที่ 6 ก็ทรงประดิษฐานเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ต้องดำเนินการต่อ ตราพระเกี้ยว ก็เป็นเครื่องหมายอันทรงคุณค่าที่เราต้องเทิดทูนหวงแหนไว้
โดยการจัดกิจกรรมปีหน้าก็ไม่ได้ต้องป้องกันอะไร จะต้องทำตามประเพณีวัฒนธรรมต่อ แต่อาจจะตัดในหลายขั้นตอน เพื่อให้พิธีกระชับขึ้นทางมหาวิทยาลัยก็พูดคุยกับเนติวิทย์ เพราะถือว่าเป็นเหมือนลูกคนหนึ่ง ที่อยู่รั้วจุฬา ก็ต้องคุยให้เข้าใจ แบะต้องดูแลเช่นกันรวมถึงชุดที่ต้องดูแลนิสิตด้วย
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตจุฬาลงดรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน นายเนติวิทย์ ยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจจะป่วนพิธี เพราะตอนลุกออกมานั้นตนก็เห็นว่าเสร็จสิ้นพิธีแล้ว และอาจารย์ก็ได้ประกาศให้นิสิตแยกย้ายได้ เนื่องจากฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนัก ก็ไม่ได้เห็นว่าจะทำผิดอะไร เพราะพิธีในปีนี้เป็นของนิสิตชั้นปีที่ 1 สภานิสิตฯ องค์การนิสิตฯ ซึ่งเป็นรุ่นพี่นั้น มีหน้าที่ควบคุมดูแลความเรียบร้อยเพียงเท่านั้น ตนเองก็ไม่ทราบว่ามีคนโดนล็อกคอไปมาทราบก็ในภายหลัง ตนเองนั้นได้พูดคุยกับรองอธิการบดีเรื่องที่จะให้จัดพื้นที่สำหรับคำนับแล้วตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่รับนักศึกษา คือเมื่อช่วงประมาณ 2 เดือนที่แล้ว และยังได้แนะนำว่าควรจะประชาสัมพันธ์ให้นิสิตทราบก่อนวันพิธี แต่อาจารย์เพิ่งมาประกาศในวันพิธี ก็คงไม่มีใครกล้าที่จะลุกออกมาในตอนนั้น แต่ก็บอกว่ายังรู้สึกดีที่มหาวิทยาลัยยอมรับความเห็นต่างและรับฟังความเห็นกรณีที่ให้กระชับพิธีการให้เร็วขึ้น โดยการไม่ต้องซ้อมก่อนให้ทำรอบเดียวไปเลย
ตนเองนั้นไม่ได้ต้องการที่จะยกเลิกพิธีการ เพียงแต่ว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปก็ต้องปรับเปลี่ยนให้สมกับพระราชปณิธานของ ร.5 ให้ประเทศเป็นอารยะ แม้อาจารย์เองยังบอกว่าพิธีการสมัยนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะตามยุคสมัย แล้วทำไมจะเปลี่ยนอย่างอื่นไม่ได้
ส่วน นายศุภลักษณ์ บำรุงกิจ รองประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนที่ 1 ซึ่งเป็นนักศึกษาที่โดนล็อกคอ เล่าว่าเหตุการณ์เมื่อวานตนเองก็รู้สึกตกใจ เพราะพิธีการก็จบแล้วแต่อยู่ ๆ ก็มีอาจารย์เดินมาล็อคคอ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้รู้จักกับอาจารย์ท่านนั้นมาก่อนเพราะอยู่คนละคณะกัน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อพูดคุย หรือขอโทษจากทางมหาวิทยาลัยหรืออาจารย์ท่านนั้นเลย
นอกจากนี้ ยังมีกระแสในโลกออนไลน์ยังวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง และกว้างขวาง หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยรุ่นพี่จาก รั้วจุฬา อย่าง “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” ออกมาตอกกลับ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานสภานิสิตจุฬาฯ โดยระบุว่า ภาพที่ออกมาจากจิตสำนึกที่อ่อนโยน ความอดทนกับอุปสรรคนิดหน่อย เพื่อให้เกิดความเป็นหมู่คณะ มีจิตใจร่วมกัน มีวินัย และเคารพในความดีงามของผู้ที่ควรเคารพบูชา ซึ่งกำลังมีคนพยายามทำลาย อย่างมีแผนมีเจตนา ที่จะให้ความงามแห่งความอ่อนโยนนี้หมดไปจากประเทศชาติ รวมไปถึงการสร้างความแตกแยกให้เป็นรอยร้าวหนักขึ้น ด้วยข้ออ้างของคำว่า “หัวสมัยใหม่”
