พุทธศาสนิกชน ร่วมกันเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชาเป็นจำนวนมาก
ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม บรรยากาศการทำบุญเวียนเทียน นมัสการองค์พระธาตุพนมสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พระบรมเจดีย์ อายุเก่าแก่กว่า2,000ปี บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอก ของพระพุทธเจ้า คึกคักไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว ต่างเดินทางมาร่วมน้อมใจสักการบูชา นมัสการองค์พระธาตุพนม เนื่องในวันมาฆบูชา และเป็นช่วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม กำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่4 – 12กุมภาพันธ์2560รวมจัด9วัน9คืนซึ่งถือเป็นช่วงสุดท้ายของงาน ทำให้มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวทำบุญมากเป็นพิเศษ จนล้นวัด นับแสนคนเพื่อร่วมเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาจากอดีตถึงปัจจุบัน
มาต่อที่จังหวัดปราจีนบุรี ที่โบราณสถานวัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี พระครูสิริ พัฒนโสภณเจ้าคณะอำเภอเมืองปราจีนบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำพุทธศาสนิกชนกว่า10,000คน ฟังโอวาทปาฏิโมกข์ และเวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุกว่า1,500ปี
ปิดท้ายที่จังหวัดสุรินทร์ พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์วัดป่าอาเจียง จังหวัดสุรินทร์ นำพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ชาวบ้านตำบลกระโพ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ประกอบพิธีทำวัตรสวดมนต์ และเจริญพระพุทธมนต์ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันมาฆบูชา และ ควาญช้างนำช้างแสนรู้ 12 เชือก ร่วมพิธีเวียนเทียนรอบเจดีย์เอราวัณ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ไว้เป็นพุทธสถานอุทยานลานบุญสำหรับพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาในการประกอบศาสนกิจในพระพุทธศาสนา และเพื่อสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมตำนานคนกับช้าง ของคนเลี้ยงช้างในจังหวัดสุรินทร์