เกษตรกรชาว จ.ยะลาลุยกรีด หลังราคายางดีที่สุดในรอบ 4 ปี แถมน้ำยางไหลกระฉูด จนลืมฤดูผลัดใบ ล่าสุดเกษตร จ.ยะลา ออกมาเตือน ควรหยุดกรีด เหตุเสี่ยงเกิดโรคหน้ายางแห้ง – ต้นตาย
นายโชคดี วิรุณกาญจน์ เกษตรจังหวัดยะลา ออกมาเตือนว่า หลังราคายางปรับขึ้น น้ำยางก็ออกจำนวนมาก ส่งผลให้เกษตรกรเร่งกรีดยางจนลืมและไม่สนใจว่าต้นยางเข้าสู่ช่วงผลัดใบ จึงอยากให้เกษตรกรหยุดกรีดต้นยาง เนื่องจากเป็นช่วงที่ไม่มีใบทำให้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ หากยังฝืนกรีดในช่วงยางผลัดใบ จะทำให้เกิดโรคหน้ายางแห้ง และเสี่ยงที่จะทำให้ต้นยางตายได้ เพราะฉะนั้น จึงควรให้เกษตรกรอดทนรอให้ใบยางงอกใหม่จนเด็มใบและให้แก่เต็มที่เสียก่อน จึงจะกรีดยางกันอีกครั้งได้ ซึ่งตลอดระยะลาเวลากว่า 4 ปี ตั้งแต่ปี 2555 – 2559 เกษตรชาวสวนยางต้องประสบปัญหาอย่างหนัก ราคายางตกต่ำตลอดทั้งปี โดยราคายางพาราแผ่นราคาแค่ 35-70 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น และถือว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซบเซาลงเป็นอย่างมาก
เกษตรจังหวัดยะลา ยังกล่าวอีกด้วย ว่า ปัจจุบันหลังราคายางปรับขึ้นในกลางเดือน ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ประชาชนจับจ่ายซื้อของกันมากขึ้น ซึ่งราคายางขณะนี้ถือว่าแผ่นดิบจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 – 85 บาท และเศษยางพารากิโลกรัมละ 37-40 บาท จนเกษตรกรีดยางโดยไม่สนใจว่าเป็นฤดูงดกรีดยาง อย่างไรก็ตาม หลังต้นยางผลิดใบรอบใหม่ใช่เวลาประมาณ 2 เดือน ระหว่างรอใบแก่ ควรบำรุงดูแลรักษาส่วนยาง โดยใส่ปุ๋ยอย่างถูกวิธี จะทำให้เกษตรสามารถกรีดยางได้ระยาว