พบกับเรื่องราวสุดรันทดของแม่วัย 46 ปีชาว อ.ไชโย จ.อ่างทอง ต้องลาออกจากงานเลี้ยงลูกชายที่พิการจากการถูกสุนัขกัดนานกว่า 6 ปีด้วยความยากลำบาก คุณแม่ใจแกร่งเปรยความในใจ “รักลูกสุดหัวใจแม้ชีวิตก็ให้ได้”
นางบำรุง กตัญญู อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ทุก ๆ วันต้องตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมอาหารให้กับ “น้องโน้ต” นายนันทวัฒน์ กตัญญู อายุ 16 ปี บุตรชายที่ป่วยจากโรคแข้งขาอ่อนแรงมานานกว่า 6 ปี หลังจากถูกสุนัขกัดขณะเดินทางกลับจากโรงเรียนที่อยู่ไม่ห่างจากบ้าน และเมื่อพักรักษาตัวจนแผลหายกลับมีอาการขาแขนอ่อนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้จะเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลแต่อาการกลับหนักขึ้นจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้ นางบำรุง ซึ่งเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องลาออกจากงานมาดูแลลูกชาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่าบ้านเรือนสภาพชำรุดทรุดโทรม มีรอยรั่วอยู่แทบทั้งหลังที่เป็น “บ้าน” ของ 2 แม่ลูกที่พักอาศัย ได้ความช่วยเหลือจากชุมชนในการดูแลทั้งในเรื่องบ้านพัก อาหารและสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ โดยมี ว่าที่ ร.ต.บุญมั่น สวนแก้ว อดีตข้าราชาการบำนาญครูและเพื่อนบ้านคอยช่วยดูแลกันตามมีตามเกิด แม้หน่วยงานของรัฐจะเข้ามาช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ห่างหายไป ทำให้ 2 แม่ลูกต้องสู้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ด้วยสภาพการเงินและการดำรงชีพที่ต้องในสิ่งของต่าง ๆ เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แป้ง นม ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน รถเข็นคนพิการและเตียงครึ่งนั่งครึ่งนอนที่จำเป็นต้องใช้ก็มีสภาพทรุดโทรมจนเกือบใช้ไม่ได้ โดยหากมีอาการ้อนจัด นางบำรุง ต้องแบก “น้องโน้ต” ขึ้นหลัง เพื่อเดินทางไปยังบ้านของน้องสาวที่มีอากาศถ่ายเทกว่า เพราะที่บ้านไม่สามารถอยู่ไหว
นางบำรุง เปิดเผยว่า ตนเองมีลูก 3 คน คนโตกับคนรองต่างมีครอบครัวและออกทำงานต่างจังหวัด ตนเองอาศัยอยู่กับบุตรชาย 2 คน โดยหลังจากถูกสุนัขกัด “น้องโน้ต” ลูกชายของตนมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาเรื่อย ๆ รักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น ตนเองต้องลาออกจากเพื่อมาดูแล ป้อนข้าวป้อนน้ำ อาบน้ำ ซึ่งแม้จะลำบาก แต่ตนเองไม่รู้สึกว่าลำบาก ต้องดูแลกันไป เพราะเป็นลูกของเรา รักลูกที่สุด ชีวิตก็ให้ได้ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันไม่เคยขาดก็คือการกอด การหอมแก้มให้กำลังใจ แม้บางครั้งจะท้อแต่เมื่อได้กอดลูกได้หอมแก้มลูก รู้สึกมีพลังที่จะสู้ต่อไป
นี่คือหนึ่งตัวอย่างของแม่ผู้ที่ทุ่มเททั้งชีวิตแรงกายเพื่อที่จะเลี้ยงลูกชายด้วยความรัก แม้จะไม่มีโล่แม่ดีเด่นหรือรางวัลชมเชยจากหน่วยงานของรัฐ แต่การที่แม่บำรุงได้ทุ่มเทชีวิตและแรงกายเพื่อดูแลน้องโน้ต น่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่านี่คือความรักที่แท้จริงของคนที่ได้ชื่อว่า “แม่”