ทีมคลี่คลายคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ ยังคงปักหลักที่ จ.กระบี่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสอบสวนขยายผล และแกะรอยเส้นทางการเงินของ “บังฟัต” ในขณะที่ ชาวบ้านในพื้นที่ออกมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่คลี่คลายคดีได้เร็ว ด้าน พล.อ.ประวิตร ชมการทำงาน และให้กำลังใจ ตร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงข่าวรายละเอียดการคลี่คลายคดีสังหารโหด 8 ศพ ไปเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) และได้เดินทางกลับกรุงเทพฯไปแล้ว แต่ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่ จ.กระบี่ ทั้ง รอง ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงอีกหลายนาย ซึ่งคดีนี้ถือว่ายังไม่สิ้นสุด ต้องมีการสืบสวนขยายผลในทุกมิติ ด้วยการตามสืบต่อในบางประเด็นเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภรรยาผู้ต้องหา สถานที่ไปหลบซ่อน สถานที่พบรถ หรือจะมีตัวบงการที่อยู่เหนือกว่า นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อีกหรือไม่ และจากประวัติของบังฟัต ที่เคยทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ แต่ระยะหลังได้ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.พังงา นานเกือบ 10 ปี และมีเงินมาให้ปล่อยกู้ จึงต้องทำการสาวประวัติการเงินของ บังฟัต ด้วย ว่าจะไปเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่ ส่วนประเด็นการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ถ้าแจ้งข้อหาตามมาตรา 288 วงเล็บ 4 คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จะทำให้มีอัตรามีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
สำหรับ นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต เป็นลูกชายคนเดียว และมีพี่สาวอีก 6 คน พ่อและแม่ยังมีชีวิตอยู่ แต่อายุมากแล้ว ซึ่งเดิม บังฟัต ทำงานเป็นลูกจ้าง อบต.บ้านกลาง เป็นพนักงานเก็บค่าน้ำประปา ทำงานที่ อบต.อยู่ 4-5 ปี ก่อนจะย้ายไปทำธุรกิจรับซื้อยางพาราที่ ต.แม่นางขาว อ.คุระบุรี จ.พังงา กับภรรยาเป็นเวลานาน เกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่งภรรยาค่อนข้างมีฐานะดี จึงอาจทำให้บังฟัต มีเงินมาปล่อยเงินกู้ได้
นายสุรชาติ บ้านนบ กำนันตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ เปิดเผยกับ ทีมข่าว “ไบรท์นิวส์” ว่า ตนเองรู้จัก นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล มานานแล้วเพราะเป็นญาติห่างๆ กัน ซึ่งเดิมบังฟัตใช้นามสกุล “บ้านนบ” ต่อมาไปเปลี่ยนโดยเพิ่มคำว่า “วงศ์สกุล” เข้าไป และตนเองมีศักดิ์เป็นน้าของภรรยาผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง ด้วย ดังนั้น บังฟัต ก็ถือเป็นญาติกับทางผู้ใหญ่ด้วย ซึ่งบังฟัตนั้น เกิดและอาศัยอยู่ในหมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกันกับผู้ใหญ่วรยุทธ บ้านอยู่ใกล้กัน เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะอายุห่างกันไม่กี่ปี ส่วนนิสัยส่วนตัว บังฟัตเป็นคนเรียบร้อย เป็นที่รักของคนในพื้นที่ ไม่มีการแสดงออกถึงการเป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก่อน ทางญาติพอมาทราบว่าบังฟัตเป็นคนลงมือสังหาร 8 ศพ ก็รู้สึกมึนงง และตกใจเพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อน (มีคลิปเสียง)
สำหรับบรรยากาศที่หมู่บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ชาวบ้าน กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีการจับกลุ่มพูดคุยกันตามร้านค้าในช่วงเช้าหลังจากที่เงียบเหงามาหลายวัน เนื่องจากรู้สึกปลอดภัยขึ้น ภายหลังจากที่มีการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในคดีสังหาร ผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี พร้อมลูกเมียและญาติ รวม8 ศพ บาดเจ็บอีก3ราย ได้
นางวรรณดี จงรักษ์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า รุ้สึกพอใจ และดีใจมากที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ แต่ยังมีความกังวลบ้างในเรื่องความปลอดภัย เพราะไม่มั่นใจว่า จะจับคนร้ายได้ทั้งหมดหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้คนในพื้นที่ก็มีความขัดแย้งกัน แต่ก็ขอขอบคุณท่าน ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ชาวบ้านก็เริ่มใช้ชีวิตตามปกติ ผิดกับก่อนหน้านี้ ที่ชาวบ้านไม่กล้าออกไปไหนช่วงกลางคืน
ขณะที่บรรยากาศที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 14/3 ม.1 ต.บ้านกลาง ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ ยังคงมีเจ้าหน้าที่ยังคงปิดประตูรั้วหน้าบ้าน และจัดเวรยามคอยเฝ้าด้านในบริเวณบ้าน ตลอด24 ชม. เพื่อกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป จนกว่าจะมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา โดยยังคงมีชาวบ้านใกล้เคียงบางรายเดินทางมาดูที่เกิดเหตุเพื่อรอดูว่า เจ้าหน้าที่อาจจะนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากต้องการเห็นหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุ
ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชื่นชม และให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถคลี่คลายคดี และจับกลุ่มคนร้ายที่ก่อคดีฆาตกรรม 8 ศพที่จังหวัดกระบี่ได้ พร้อมทั้งให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้พยายามทำงานอย่างเต็มความสามารถ อย่างไรก็ตาม ยังไม่รู้เรื่องที่จะมีการปรับเปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง และที่ผ่านมาไม่มีการสัญญาในการที่จะให้ดำรงตำแหน่งแค่ 2 ปีแล้วจะมีการปรับเปลี่ยน โดยส่วนตัวไม่ลำบากใจต่อข่าวที่จะมีการปรับเปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด