เด็กหญิงประสบอุบัติเหตุรถชนกับรถพ่วงจนเดินไม่ได้ เคราะห์ซ้ำถูกทนายโกงเงินเยียวยาจากคู่กรณีอีก5 ล้านบาท ต้องใช้ชีวิตสุดลำเค็ญเร่ขายของ ด้านแม่ของเด็กหญิงเดินหน้าร้องขอความเป็นธรรมไปหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะสภาทนายความ แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้า
ทีมข่าวไบรท์ นิวส์ เดินทางไปพูดคุยกับแม่น้องบีม เด็กสาวที่พิการเดินไม่ได้ต้องนั่งรถวีลแชร์ เปิดเผยถึงชีวิตที่แสนรันทดให้กับผู้สื่อข่าวฟัง ว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2548 ตนเองกับสามี พร้อมน้องบีม นั่งรถปิกอัพเพื่อนสามีไปประสบอุบัติเหตุชนกับรถพ่วง 18 ล้อ ที่อำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ธานี สามีเสียชีวิต ตัวเองบาดเจ็บสาหัส ส่วนน้องบีมกระดูกทับไขสันหลังกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ต้องนั่งอยู่แต่บนรถวีลแชร์ โดยครอบครัวได้รับการช่วยเหลือจาก นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่รับอาสาว่าความให้จนกระทั่งต่อมาปี 2557 นายพิสิษฐ์ แจ้งว่า ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีคำพิพากษาให้คู่กรณีจ่ายเงินให้ครอบครัวตนเอง 1 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้เป็นงวดๆ งวดละ 40,000 บาท จากนั้นได้นำหนังสือมอบอำนาจมาให้ตนเซ็น โดยอ้างว่าตนเองไม่สะดวกเดินทาง ตนจึงได้เซ็นให้ไป และได้รับเงินเดือนละ 40,000 บาท เป็นเวลา 7 เดือน ก่อนจะหยุดให้ในเวลาต่อมา เมื่อทวงถาม นายพิสิษฐ์จะบ่ายเบี่ยง และอ้างว่าทางคู่กรณียังไม่ได้จ่ายมา
https://youtu.be/DTInFbq_ZQQ
แม่น้องบีม กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า ว่า ตนเองจึงได้ติดต่อไปที่บริษัทเพื่อสอบถามถึงสาเหตุ แต่แล้วก็ต้องแทบช็อกหัวใจสลายเมื่อทราบว่าทางบริษัทรถพ่วง 18 ล้อ จ่ายเงินค่าเสียหายให้กับครอบครัวตนเองมา 5 ล้านบาทแล้ว โดยมีทนายพิสิษฐ์ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากตนเองมา ตนจึงสอบถามเขาไป เขาก็ยอมรับและบอกว่าจะหาเงินมาใช้พร้อมนำดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมา จากนั้นก็เปลี่ยนมือถือ และติดต่อไม่ได้อีกเลย ตนเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายก็ไม่รู้ว่าจะไปสู้รบปรบมือกับเขาได้อย่างไร เคยร้องเรียนไปที่สภาทนายความ มูลนิธิปวีณา ศูนย์ดำรงธรรม แต่เรื่องก็เงียบหายไป โดยเฉพาะรงเรียนที่น้องบีมเรียนอยู่ ไม่ค่อยเข้าใจ คิดว่า แม่ไปหากินกับความพิการของลูก ไปฟังเสียงตัดพ้อของแม่น้องบีม
ขณะที่ น้องบีม บอกว่า รู้สึกท้อแท้ในชีวิต เพราะไม่คิดมาก่อนว่า ตนเองต้องมาประสบอุบัติเหตุจนถึงพิการ แทนที่ในอนาคตเมื่อตนศึกษาเล่าาเรียนจนจบ จะต้องเป็นผู้ดูแลแม่ แต่วันนี้ แม่ต้องมาดูแลตนเอง อย่างไรก็ตามก็จะสู้ชีวิตต่อไป