เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุม ศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือที่ 2 นำโดย พ.อ.อุไร ศรีม่วงสุข หัวหน้ากองบังคับการฯ ได้จับกุม นายพลพัต กาสีใจ อายุ 34 ปี นายเทอดเกียรติ ธีรวรรุตน์ อายุ 34 ปี และ น.ส.ส่ะล่ะ จะแตะ พร้อมของกลางยาบ้า 439 เม็ด ยึดของกลางรถยนต์ตู้ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน เงินสด 29,260 บาท ทองรูปพรรณแหวน สร้อยคอ และสร้อยข้อมือ น้ำหนักรวม 4 บาท โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
การจับกุมในครั้งนี้มีขึ้นภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการส่งมอบยาเสพติดกันที่หน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.ป่าตึง ริมถนนสายแม่จัน – แม่สลอง จึงนำกำลังไปดักซุ่มพบ นายเทอดเกียรติ นั่งมาในรถตู้สีขาวหมายเลขทะเบียน นข-6340 เชียงราย จอดอยู่ในปั๊มและมี นายพลพัตร เดินมาหาคล้ายมารับสิ่งของอะไรบางอย่าง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น นายพลพัตร พบยาบ้า 10 เม็ดอยู่ในกระเป๋าคาดเอว และจากการตรวจค้น นายเทิดเกียรติ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ตู้พบยาบ้า 20 เม็ด เงินสด 5,620 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
จากการสอบสวน นายเทอดเกียรติ รับสารภาพว่า ได้รับยาบ้าทั้งหมดมาจาก น.ส.ส่ะล่ะ เจ้าหน้าจึงให้ นายเทอดเกียรติ โทรศัพท์ให้ น.ส.ส่ะล่ะ นำยาบ้ามาส่ง ผ่านไปประมาณ 20 นาที น.ส.ส่ะล่ะ ขี่รถจักรยานยนต์ป้ายทะเบียน 1-กก-7309 เชียงราย พร้อมนำยาบ้า 409 เม็ดมาส่งตามนัดโดยซุกยาบ้าไว้ในกางเกงชั้นใน เจ้าหน้าที่จึงจับกุมทั้ง 3 คนมาสอบสวนโดย นายเทอดเกียรติ ให้การว่า บิดาของตนเองเป็นอดีตตำรวจหลังเกษียณราชการ ได้ซื้อรถตู้ให้ตนเองขับนำเที่ยว แต่รายได้ไม่พอใช้จึงซื้อยาบ้ามาขายด้วย
ขณะที่ น.ส.ส่ะล่ะได้ให้การรับสารภาพว่าหลังเรียนจบในระดับชั้น ปวส. ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง รวมถึงแต่งงานมีลูก 2 คนและเลิกกับสามี จึงหันมาค้ายาเสพติดโดยได้ไปรับมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อนำเงินไปเลี้ยงลูก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว นายเทอดเกียรติ และ น.ส.ส่ะล่ะดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันค้ายาเสพติดส่วน นายพลพัตร จะนำตัวไปบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดต่อไป