ผู้โดยสารภายในสายการบินนกแอร์ เส้นทาง เลย-ดอนเมือง เจอเรื่องวุ่น เมื่อหนุ่มเยอรมันทำป่วนอ้างว่ามีวัตถุระเบิดในกระเป๋า ด้านกัปตันสั่งตรวจสัมภาระก่อนขึ้นบินอีกครั้ง พร้อมส่งตัวให้ตำรวจเลยสอบสวน ส่วนผู้โดยสารรายอื่นถึงสนามบินดอนเมืองอย่างปลอดภัยเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
วันนี้ (20 เม.ย.61) สายการบินนกแอร์ ได้รับรายงานข่าวระบุว่า เที่ยวบินที่ DD9705 เส้นทาง “เลย – ดอนเมือง” พร้อมด้วยผู้โดยสารจำนวน 83 คน พร้อมด้วยนักบินและลูกเรือ 5 คน มีกำหนดการออกเดินทางจากท่าอากาศยานเลย เวลา 10.30 น. ด้วยเครื่องบินแบบบอมบาร์ดิเอร์ Q400 มีความจำเป็นต้องล่าช้า เนื่องจากมีผู้โดยสารชายชาวเยอรมันรายหนึ่ง แจ้งว่ามีวัตถุระเบิดอยู่ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องของเขา
ดังนั้น กัปตันจึงได้ปฏิบัติตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากล โดยการดำเนินการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานและหน่วยงานต่าง ๆ ในการแจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมนำเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานมาเชิญตัวผู้โดยสารคนดังกล่าว และสัมภาระลงจากเครื่องบินโดยทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานเลยจึงได้ทำการตรวจสอบสัมภาระ และเชิญตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเลย เพื่อดำเนินการแจ้งความกับผู้โดยสารที่พูดว่ามีระเบิดในสัมภาระตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ที่เดินทางในเที่ยวบินดังกล่าว กัปตันได้เชิญผู้โดยสารพร้อมสัมภาระทั้งหมดลงจากเครื่องบินเพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งทั้งในส่วนของเครื่องบิน ผู้โดยสาร และสัมภาระทั้งหมด จนมีความมั่นใจว่า ไม่มีความเสี่ยงใด ๆ และเที่ยวบินดังกล่าวได้พร้อมออกจากท่าอากาศยานเลยอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 11.30 น. โดยมีกำหนดเวลาถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เวลา 12.40 น.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้โดยสารทุกท่านไม่มีอาการตื่นตระหนกและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้านความปลอดภัยเป็นอย่างดี รวมถึงเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยของสายการบินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
สายการบินนกแอร์ ขออภัยผู้โดยสารทุกท่านหากไม่ได้รับความสะดวกในเที่ยวบินดังกล่าว ทั้งนี้สายการบินได้ปฏิบัติการบินตามมาตรฐานโดยคำนึงถึงความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการเดินทางของผู้โดยสารเป็นสำคัญ และยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาการบริการให้สมบูรณ์แบบอย่างดีที่สุดต่อไป
ส่วนที่ท่าอากาศยาน จ.เลย ต.นาอาน อ.เมืองเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบิน ได้รับแจ้งจาก สายการบินนกแอร์ ว่า มีชาวต่างชาติรายหนึ่ง เมื่อขึ้นไปบนเครื่องบินแล้วพูดคำว่า (บอมบ์) ระเบิด บนเครื่องบินที่กำลังจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเลยไปยังสนามบินดอนเมืองดังกล่าว กัปตันบนเครื่องบินจึงออกคำสั่งให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องทั้งหมด พร้อมกับนำกระเป๋าสัมภาระลงจากเครื่องทุกใบเพื่อตรวจเช็ค จากนั้นทางกัปตันได้ทำการรีบูทใหม่หมด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชาวต่างชาติ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายแมนเฟร็ด อายุ 49 ปี สัญชาติเยอรมนี ผู้ก่อเหตุมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองเลย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย และสารวัตรท่องเที่ยว จ.เลย ได้สอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า เนื่องจากเครื่องบินขาเข้าได้ดีเลย์ไปประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที เนื่องจากสภาพอากาศของ จ.เลย ในช่วงเช้าวันนี้ (20 เม.ย.61) มีหมอกลงหนา เครื่องบินไม่สามารถลงที่ท่าอากาศยานเลยได้ ต้องบินไปลงที่ท่าอากาศยานอุดรธานี แต่เมื่อสภาพอากาศ จ.เลย ดีขึ้นจึงบินลงที่ท่าอากาศยานเลยได้ เมื่อเครื่องบินลงจอดและผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องในเที่ยวบินนี้ ขึ้นเครื่องแล้วนั้น นายแมนเฟร็ด ที่อยู่บนเครื่องนำกระเป๋าขึ้นไปด้วยแล้ววางไว้บนจุดวางสัมภาระบนศีรษะ แอร์โฮสเตส ได้ถามว่าในกระเป๋ามีของที่เป็นอันตรายหรือไม่ กลับได้รับคำตอบว่า “ไม่มี มีแต่บอมบ์ (ระเบิด)” แอร์โฮสเตสตกใจได้รีบไปรายงานให้กัปตันได้ทราบ จากนั้นกัปตันได้ให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องพร้อมกับสัมภาระทุกใบเพื่อทำการตรวจเช็ค และรีบูทเครื่องใหม่
ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุให้การว่า ตนมีแฟนที่ อ.หนองหิน จ.เลย เกือบ 10 ปีแล้ว วันนี้ตนเครียดเนื่องจากรอเครื่องมาตั้งแต่เวลาตี 5 นานกว่า 3 ชั่วโมง พอขึ้นเครื่องไปมีแอร์โฮสเตสมาถาม ก็พูดเล่น ๆ ไปว่ามีบอมบ์ เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนเสร็จพร้อมกับพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่า “แจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารอันเป็นเท็จ อันเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในอากาศยานระหว่างการบินตื่นตกใจ” และนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเลยต่อไป