นักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอก สัมผัสความหนาว ขณะที่อุทยานฯ เข้ม ห้ามนำสุราเข้าพื้นที่ ฝ่าฝืนปรับ 1 พันบาท
ด้านอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ยังก็เกิดน้ำค้างแข็ง หรือ “เหมยขาบ” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยเช้าวันนี้ (4 ธันวาคม) อุณหภูมิต่ำสุดที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน วัดได้ 3 องศาเซลเซียส ส่วนที่ยอดดอยอินทนนท์ วัดได้ 6 องศาเซลเซียส
ขณะที่สภาพอากาศเช้าวันนี้เป็นท้องฟ้าเปิด นักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันไปรอชมทะเลหมอกและแสงแรกของพระอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าจนแน่นที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน
ด้านจังหวัดเลย สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเลย รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส
จากที่อุณหภูมิลดลง และมีหมอกลงหนาจัด จึงทำให้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเลย ได้แก่ ภูกระดึง ภูหลวง ภูเรือ ภูลำดวน ภูทอก และที่ถนนคนเดิน อำเภอเชียงคาน ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นกันเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ นักท่องเที่ยวกว่า 1,000 คน ได้มาท่องเที่ยว เพื่อชมธรรมชาติที่สวยงาม และมีหมอกลงหนาจัดในตอนเช้า โดยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 13 องศาเซลเซียส
ส่วนที่ จ.เชียงราย อุณหภูมิเฉลี่ย 15-18 องศาเซลเซียสในพื้นที่สูง ทำให้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งของจังหวัดเชียงรายได้รับความนิยม โดยเฉพาะที่ดอยผาตั้ง บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น ในช่วงเช้าจะมีอากาศเย็นสบาย และเกิดปรากฎการณ์ทะเลหมอกที่ทอดอยู่ในฝั่งดินแดนฝั่งประเทศลาวอย่างสวยงาม ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดพากันขึ้นมาพักผ่อนพักตามรีสอร์ทและกางเต้น และได้ขึ้นไปชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกกันอย่างคึกคักจำนวนหลายร้อยคน
โดยฝนปีนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.เชียงราย ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งทางธรรมชาติ วิถีชีวิตและแนวผจญภัยให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงจะมีการจัดกิจกรรมอีกหลายอย่างทั้งงานประเพณีและเทศกาลดอกไม้ เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้องรับปีใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ และหวนกลับมายังสถานที่นี้อีก
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว เช่น ที่พัก ห้องน้ำ ความปลอดภัย ความสะอาด การกำจัดขยะ ไว้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่กังวลใจมากที่สุด คือ การส่งเสียงดัง ทะเลาะวิวาท เนื่องจากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ดังนั้น จึงได้มอบนโยบายและกำชับเจ้าหน้าที่อุทยานทั่วประเทศให้เข้มงวด ห้ามนักท่องเที่ยวนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในอุทยาน หากฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะเชิญออกจากพื้นที่ทันที นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อุทยานทั่วประเทศ จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วย ซึ่งจะเป็นกิจกรรมทดแทน สร้างสรรค์ เป็นสิริมงคล และช่วยให้การดื่มเหล้าเบียร์ลดลง
“คนที่เข้าไปในอุทยาน ต่างต้องการความสงบ อยากสัมผัสธรรมชาติ หวังว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ และใช้เป็นกฎกติการ่วมกัน ซึ่งหากตรวจพบการลักลอบนำเหล้าเบียร์เข้าไปจะต้องมีความผิดและต้องออกจาก พื้นที่ทันที เพราะถือว่าได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว ขณะเดียวกัน หากพบว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยไม่เข้มงวดก็ถือว่ามีความผิดด้วย และหากผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดในอุทยาน สามารถโทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายธัญญา กล่าว