ปลัดเทศบาลนครสกลนคร เผย น้ำท่วมเทศบาลนครสกลนคร รุนแรงสุดในรอบ 30 ปี กระทบประชาชน 5 หมื่นคน ขณะเจ้าหน้าที่ห่วงความเป็นอยู่ เฝ้าระวังน้ำป่าและฝนจะไหลเข้่ามาสมทบอีกหรือไม่
นายวิโรจน์ เสนาธิบดี ปลัดเทศบาลนครสกลนคร เปิดเผยว่า หลังเกิดน้ำท่วมขังเต็มทุกพื้นที่ทั่วทั้งเขตเทศบาลนครสกลนคร ส่งผลให้ประชาชน 50,000 คน ที่อาศัยในเขตเทศบาลนครสกลนคร ได้รับผลกระทบ เพราะปริมาณน้ำยังไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ซึ่งถือได้ว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี โดยล่าสุดขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมเป็นวงกว้างทั้ง 18 อำเภอถนนหลายสายถูกตัดขาด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้าทั่วทั้งเมืองทำให้ชาวบ้านอาจต้องประสบปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน เป็นไปด้วยความยากลำบาก
นอกจากนี้เรื่องที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วง อันดับหนึ่งคือปัญหาด้านการจัดหาอาหาร และ น้ำดื่มสะอาด สำหรับนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งการจะหาวัตถุดิบมาใช้ประกอบอาหารก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะทุกพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหมด ทำให้การขนส่งค่อนข้างมีอุปสรรค ประกอบกับยังมีชาวบ้านบางส่วนไม่ยอมอพยพออกจากบ้าน ทำให้การนำอาหารไปให้ก็ยากลำบากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายวิโรจน์ ระบุว่า สิ่งที่ต้องการที่สุดขณะนี้ คือวัตถุดิบ ที่จะนำมาใช้สำหรับทำอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย ส่วนสถานการณ์จะคลี่คลายได้เมื่อไหร่นั้น และวันนี้ต้องดูว่าจะมีฝนตกเพิ่มเติมหรือมีมวลน้ำหลากมาสมทบอีกหรือไม่ แต่ทั้งนี้ยืนยันว่า ปัจจุบัน ปัญหาน้ำท่วมยังไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลในเขตเทศบาลนครสกลนครอย่างรุนแรง โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายไปวางกั้นตามแนวกำแพงของโรงพยาบาลเพื่อป้องกันน้ำหลากเข้าท่วม รวมถึงตั้งเครื่องคอยสูบน้ำออกตลอดเวลาอีกด้วย
ด้านนายธวัช ศิริวัธนนุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องทำให้น้ำป่าจากเทือกเขา ร่วมกับปริมาณน้ำสะสมหลากเข้าท่วมพื้นที่เทศบาลนครสกลนคร ส่งผลให้สถานการณ์ค่อนข้างอยู่ในภาวะวิกฤติ ขณะนี้หลายฝ่ายต้องระดมกำลังให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดย นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้มีประชาชนกว่า 300 ครัวเรือน ต้องอพยพออกจากบ้านมาพักอาศัยยังศูนย์พักพิงที่จังหวัดจัดให้บริเวณศาลากลางจังหวัด เพราะระดับน้ำยังคงท่วมขังสูง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในบ้านชั้นเดียว แต่ทั้งนี้ก็ยังพบว่าจะมีบางส่วนตัดสินใจไม่ยอมอพยพออกมา และแม้ว่าฝนจะเริ่มหยุดแล้วก็ตาม แต่ก็พบว่าระดับน้ำยังคงทรงตัวสูง 1.50 – 2 ม. ทำให้ต้องเฝ้าระวังว่าในวันนี้ (29 ก.ค.60) จะมีฝนตกหรือมวลน้ำจากภูเขาหลากลงมาสมทบเพิ่มเติมหรือไม่ โดยหากไม่มีฝน หรือ มวลน้ำหลากมาสมทบอีก ก็คาดว่า ระดับน้ำที่ท่วมขังอยู่ดังกล่าวจะลดลงอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้นั่งเรือลงพื้นที่ตรวจสอบจุดน้ำท่วมหนักในเขตเทศบาลนครสกลนคร บริเวณถนนสุขเกษม ถนนรัฐพัฒนา ถนนเจริญเมือง ถนน ต.พัฒนา ถนนมรรคาลัย ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นย่านการค้าทั้งหมดของจังหวัดสกลนคร ส่งผลให้มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถประเมินค่าได้ นอกจากนี้ยังพบว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงบรรทุก จมน้ำเสียหายมากกว่า 500 คัน โดยเฉพาะรถเก๋งน้ำท่วมหลังคาจนจมมิด ระบบไฟในรถช็อตเสียหาย
อย่างไรก็ตามขณะนี้มีประชาชนเข้ามาพักที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนอนุบาลสกลนครกว่า 100 ครอบครัว ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครได้เดินทางเข้าเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจและจะหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป
ทั้งนี้จากสถานการร์น้ำท่วมที่ จ.สกลนคร ทำให้ถนนเส้นหลายสายไม่สามารถสัญจรได้ โดยมีถนนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ดังนี้
1.บ้านธาตุเข้าเมืองต้องใช้เร่งด่วนขาเข้าหนึ่งเล่นรถเล็กเข้าได้แต่จะไปติดอยู่ที่หน้าแขวงการทาง
2.ประตูเมืองรักพัฒนาน้ำท่วมขังรถยังขับผ่านไม่ได้
3.ถนนเส้นอาคารสงเคราะห์ใช้ได้เฉพาะรถยกสูง
4.ถนนไอทียู รถสามารถวิ่งผ่านได้แล้ว
5.หน้า มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ระดับน้ำลดลงแล้วรถสามารถสัญจรได้ตามปกติ
6.หน้าตำรวจทางหลวงประตูสามถึงหน้าบ้านภาค ระดับน้ำลดลงแล้วรถผ่านได้ตามปกติ
7.ถนนเส้นแม็คโครถึงหน้าทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร ระดับน้ำยังถึงระดับหัวเข่า
8.ถนนเส้นบิ๊กซี-โรงสีใหญ่-อาคารสงเคราะห์ ถนนไม่สามารถใช้การไม่ได้น้ำยังท่วมระดับเอว
9.เส้นบายพาสกาฬสินธุ์รถสามารถสัญจรได้ตามปกติ
10.ถนนจากสกลนครมุ่งหน้าไปโคกศรีสุพรรณ สะพานขาดถนนไม่สามารถใช้การได้ หากจะเดินทางไปอำเภอนาแกให้ใช้เส้นทางท่าแร่เข้าโพนนาแก้วออกบ้านแมดนาท่ม เข้าเส้นทางไปนาแกแทน
11.ถนนเส้นพังขว้าง- บ้านผ่าน สะพานบ้านห้วยทราย ตำบลขมิ้น ขาดถนนไม่สามารถใช้การได้ ต้องใช้เส้นทางเลี่ยงเข้าบ้านน้อยจอมศรีออกคลองป่านพาน ถึงจะไปเส้นพรรณานิคมได้
ขณะที่การช่วยเหลือประชาชนศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 2ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถครัวสนามให้บริการอาหารและน้ำดื่มแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ที่บริเวณแยกหอนาฬิกา เทศบาลนครสกลนคร นอกจากนี้ยังจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลค่ายกฤษณ์สีวะรา บริการออกช่วยเหลือประชาชน ณ โรงเรียนอนุบาลสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร ซึ่งมีผู้พักอาศัยประมาณ 40 ครอบครัว
ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 2 ได้เคลื่อนย้าย กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย จากกองพลทหารม้าที่3 เข้าพื้นที่จังหวัดสกลนคร เพิ่มเติมอีก 1 กองร้อย และเคลื่อนย้ายกำลังพล และยุทโธปกรณ์จากกองพันทหารช่างที่ 202 จังหวัดนครราชสีมา เข้าพื้นที่จังหวัดสกลนคร ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่โดยเร่งด่วน ขณะที่กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยเหลือท่าอากาศยานสกลนครที่ประสบอุทกภัย