หลังจากมีเหตุการณ์แท็กซี่พลเมืองดีสวมบทฮีโร่ช่วยหญิงสาวรอดพ้นจากการถูกข่มขืนชิงทรัพย์ ล่าสุดโครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กฯ สำนักงานอัยการสูงสุด มอบรางวัลก่อนนำเรื่องเข้าคณะกรรมการเพื่อเข้าเฝ้า “พระองค์ภาฯ” ต่อไป
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รอง ผอ.โครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก และการป้องกันอาชญากรรมอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงเบื้องหลังการตรวจสอบเรื่องราวของแท็กซี่พลเมืองดีที่ช่วยเหลือหญิงสาวที่จะถูกข่มขืนบริเวณถนนบรมราชชนนี โดยมีการตรวจสอบข้อมูลความจริงจากร้อยเวรเจ้าของเรื่อง และแท็กซี่พลเมืองดี และทราบว่าคนร้ายข่มขู่ ไม่ให้หญิงเคราะห์ร้ายร้องขอความช่วยเหลือ โดยใช้อาวุธมีดเอาไว้ ในระหว่างที่แท็กซี่ไปจอดในจุดเกิดเหตุ และพบเห็นเหตุการณ์ว่ามีผู้ชายกำลังฉุดกระชากผู้หญิงเข้าข้างทางไป ระหว่างนั้นคนร้ายเหลือบมาเห็น จึงเดินออกมาจากป่าละเมาะข้างทางว่า เป็นเรื่องผัวเมียให้ไปซะและส่งเงินให้ 100 บาท แต่ทางแท็กซี่พลเมืองดีกลับเกิดข้อสงสัยและไม่เชื่อจึงจอดรถรอดูสถานการณ์ และอยู่จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาถึงจุดเกิดเหตุ แท็กซี่พลเมืองดีจึงชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ จนจับกุมคนร้ายไว้ได้
หากแท็กซี่หลงเชื่อกลอุบายของคนร้ายว่าเป็นเรื่องผัวเมีย ซึ่งเป็นค่านิยมเก่าของคนไทยว่าเรื่องผัวเมียอย่าไปยุ่ง ผู้เสียหายจะถูกคนร้ายทำร้ายอาจถึงแก่ชีวิตก็ได้ ความดีของเเท็กซี่คนดี ที่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ ที่ไม่เชื่อคำพูดคนร้ายว่าเรื่องผัวเมีย ทำให้ช่วยเหยื่อให้รอดพ้นอันตรายได้ แต่ก็สงสัยในใจว่าทำไมผู้หญิงถึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือ จนมีการตรวจสอบจากหญิงที่เคราะห์ร้ายว่าคนร้ายออกอุบายว่าแท๊กซี่คือพวกเดียวกับตนเอง หากร้องจะเข้ามาทำร้ายเพิ่มอีกคน
กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการสะท้อนว่า ผู้ที่ไม่เพิกเฉยต่อเหตุร้ายและเหตุความรุนแรงต่อผู้อื่น จึงได้รับรางวัลเสื้อคนดีที่เรายกย่อง และจะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการเพื่อนำเข้าเฝ้า รับเกียรติบัตรจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา