สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคระยอง ยอมรับผิดพร้อมขอโทษต่อประชาชนหลังจากเกิดเหตุน้ำประปาเขตเมืองระยองไม่ไหล 3 วัน สาเหตุจากระหว่างการซ่อมประสานท่อส่งน้ำให้บริการเกิดปัญหาดินสไลด์ตัวเสาไฟฟ้ามีปัญหา
น.ส.ธัชญา จวงสันทัด , นางฐิตาภา แถวเนิน และ นายศักดิ์ชัย สุชินญาพร พร้อมคณะ เป็นตัวแทนประชาชนเมืองระยองผู้เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากน้ำประปาเขตเมืองระยองไม่ไหลเป็นเวลา 3 วัน เข้าร่วมประชุมรับฟังคำชี้แจงกับ นายพงศกร ปุญญวัศพล ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาระยอง นายสิทธิพร พยัคฆรักษ์ ผู้จัดการบริษัท ยู.ยู และผู้บริหารฯ ในวันนี้ (4 ส.ค.60) พร้อมเรียกร้องให้ทางการประปาภูมิภาคสาขาระยอง และ ยู.ยู ออกมารับผิดชอบกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยมี นายธัชพล เอี่ยมงาม ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองระยอง ร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษการประชุมดังกล่าวจึงยุติลง
น.ส.ธัชญา กล่าวว่า จากกรณีการตัดประสานท่อน้ำประปาขนาด 400 มม. ที่บริเวณสี่แยกเกาะกลอย เขตเมืองระยองของการประปาฯ ส่งผลให้ชาวบ้านไม่มีน้ำใช้เป็นระยะเวลา 3-4 วันตั้งแต่วันที่ 1-4 ส.ค.60 ประชาชนต้องไปซื้อน้ำมาใช้ ซึ่งทางการประปาฯ ออกมาแก้ตัวว่าระหว่างการตัดประสานท่อส่งน้ำดังกล่าวเกิดดินสไลด์ตัว เนื่องจากก่อนหน้าจะทำการขุดซ่อมเกิดฝนตกทำให้ดินอ่อนตัว เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ใกล้เกิดเอียงและเกรงว่าเสาไฟฟ้าจะล้ม จึงต้องให้การไฟฟ้าฯ มาดูแลและทำการซ่อมแซมก่อน ซึ่งประชาชนเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการประเมินหน้างานซ่อมแซมผิดพลาด หากมีการวางแผนงานที่ดีปัญหาดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ซึ่งอยากเห็นผู้ออกมารับผิดชอบหรือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้น และขอให้การประปาฯ ให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก
ทางด้าน นายพงศกร ปุญญวัศพล ผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาคระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำประปาในเขตเมืองระยองขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือบริเวณปลายท่อ 5 – 6 จุดที่ในวันนี้ยังอาจจะมีปัญหาน้ำไหลอ่อน ซึ่งในวันนี้มีตัวแทนประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำประปาไม่ไหลมายื่นข้อเรียกร้องต่าง ๆ ซึ่งในเบื้องต้นทางการประปาฯ ยอมรับผิดพร้อมทำหนังสือขอโทษจากกรณีที่เกิดขึ้นและชี้แจงกับประชาชนผู้ใช้น้ำ แต่เนื่องจากท่อส่งน้ำประปาระยองมีสภาพเก่าใช้งานมาประมาณ 40 ปี และทางการประปาฯ ยังมีแผนงานที่จะดำเนินการซ่อม ตัดประสานท่ออยู่อีกหลายจุดซึ่งจะได้มีการวางแผนให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก