ความคืบหน้ากรณีเผาศพผิดตัวที่จังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียนลงพื้นที่สอบสวนพยานและญาติพี่น้อง เพื่อขอเพิ่มชื่อคืนสิทธิ์ให้กับ นายสาคร สาชีวะ ที่ถูกระบุว่าเสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่คุณแม่ถึงกับดีใจที่ลูกชายยังมีชีวิตอยู่
นายสาคร สาชีวะ หนุ่มใหญ่ที่ถูกระบุว่าเสียชีวิตไปแล้วเข้าโผกอดและหอมแก้ม นางศรี สาชีวะ อายุ 74 ปี แม่ของ นายสาคร ด้วยความอบอุ่นใจ หลังจากหายจากบ้านไปทำงานบนเรือประมงที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเวลา 1 ปี 2 เดือน ซึ่ง นางศรี เป็นหนึ่งใน 5 บุคคลที่ปลัดอำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่สอบปากคำครอบครัวและญาติพี่น้องเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขออนุมัติเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน ก่อนจะช่วยเหลือ นายสาคร ตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยทุกคนให้การยืนยันว่า นายสาคร เป็น ลูกหลานของตนและเป็นชาวบ้านเหล่าฝ้ายจริง ๆ
ซึ่งเรื่องนี้ทาง นางทองพูน ไวยพันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน อำเภอโนนคูณ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำพยานซึ่งเป็นญาติพี่น้องและผู้นำหมู่บ้าน 5 คนแล้ว จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอให้นายอำเภอโนนคูณ โปรดทราบและขออนุมัติเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน จากนั้นจะนำเสนอเรื่องไปยังกรมการปกครองเพื่อขอแก้ไขในระบบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ต่อไป ซึ่งนายอำเภอโนนคูณได้สั่งการให้ตนเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือ นายสาคร อย่างเร่งด่วนตามระเบียบกฎหมายต่อไป
ส่วนอัฐิที่บรรจุอยู่ในห่อผ้าสีขาวที่ช่องของกำแพงวัดที่กำลังทำการก่อสร้าง และมีการนำเอาอิฐแดงมาบังเอาไว้โดยที่ยังไม่ได้มีการใช้ปูนปิดช่องบรรจุอัฐิแต่อย่างใด นายศิริศักดิ์ แม่นทอง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้าย ระบุว่า หลังจากที่ นายสาคร กลับมาแล้ว ไม่ทราบว่าศพที่เผาไปแล้วนี้เป็นศพของใคร ดังนั้น จะต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมาย แต่หากว่าไม่มีการดำเนินการใด ๆ ตนจะทำการเก็บอัฐิของศพที่เผาไปแล้วเอาไว้ที่กำแพงวัดแห่งนี้ตลอดไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ชี้แจงว่า ตอนที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยย่านวังทองหลางที่ระบุชื่อ นายสาคร สาชีวะ ส่วนการสอบปากคำพยานแวดล้อมยืนยันว่าผู้ตายชื่อ นายสาคร จากนั้นตรวจสอบชื่อและเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักก็ตรงกับทะเบียนราษฎร์จึงประสานญาติให้มารับศพ โดยยืนยันทำตามขั้นตอนทุกประการ แต่หลังจาก นายสาคร ออกมาแสดงตัวว่ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่ไปสอบพยานเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครกันแน่ ซึ่งจากนี้พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 แนวทาง คือทางหนึ่งให้นายสาคร ตัวจริงมาแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกนำเอกสารไปใช้ปลอมแปลง กับอีกทางหนึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องพิสูจน์ทราบว่าผู้ตายที่เผาไปแล้วนั้นเป็นใคร ซึ่งอาจต้องประสานนำเถ้ากระดูกกลับมาพิสูจน์ รวมทั้งจะนำแผ่นพิมพ์มือผู้ตายมาตรวจสอบเปรียบเทียบด้วย