หลังจากกระทรวงพลังงานแจ้งปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มหรือ “แอลพีจี” บรรจุขนาด 15 กก. เดิมราคา 380 ปรับเป็น 420 บาท เพิ่มขึ้น 40 บาท เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นตามตลาดโลก โดยมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา (22 พ.ค.61 เวลา 00.01 น.) ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งที่ จ.พังงา และ จ.ชัยนาท ต้องรับภาระแบกต้นทุนสูงขึ้น วอนภาครัฐแก้ปัญหาด่วน
พ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารตามสั่ง และร้านขายไก่ทอดหลายแห่งใน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ถึงกับโอดครวญกันถ้วนหน้าหลังแบกรับภาระต้นทุนทั้งค่าอาหาร ค่า ผัก และราคาก๊าซหุงต้มที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้จะยังไม่ปรับขึ้นราคาอาหารที่ขายให้กับลูกค้าที่มานั่งรับประทานเป็นประจำทุกวัน แต่อาจใช้วิธีการปรับลดสัดส่วนวัตถุดิบในอาหารแทน อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มยังส่งผลกระทบให้กับประชาชนระดับรากหญ้าเป็นอย่างมาก ซึ่งตลอดที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ควบคุมราคาที่ปรับขึ้นก่อนล่วงหน้ามาก่อนสัก 2 สัปดาห์มาแล้ว
คุณนิตยา บุญลือ ผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่ง กล่าวว่า จากปัญหาราคาก๊าซหุงต้มขึ้นราคาส่งผลกระทบให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารต้องแบกรับภาระหลายหอย่างทั้งราคากุ้ง หอย ปู ปลา ผัก และแก๊สหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม ปรับขึ้นราคาจาก 380 บาท มาเป็น 400 – 420 บาท จนสร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่ง เพราะขณะนี้ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาอาหารเนื่องจากเห็นใจลูกค้าประจำที่มานั่งรับประทาน และจะยังไม่ลดปริมาณอาหารลงโดยทุกวันนี้ทางร้านจะใช้แก๊สหุงต้มปรุงอาหารวันละ 1-2 ถัง จึงวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ปัญหาแก๊สหุงต้มที่ปรับตัวสูงอยู่ในขณะนี้
แม่ค้าอาหารตามสั่งชัยนาท ยันไม่ขึ้นราคาแม้ก๊าซหุงต้มแพงกระทบต้นทุน
ส่วนที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท พบว่าร้านตัวแทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ได้ปิดป้ายราคาขายตามเรทราคาใหม่แล้ว โดยถังขนาด 4 กิโลกรัมขายราคา 147 บาท // ขนาด 7 กิโลกรัมราคาถังละ 223 บาท // ขนาด 15 กิโลกรัมราคาถังละ 423 บาท และขนาด 48 กิโลกรัมราคา 1,355 บาทต่อถัง ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาแตกต่างจากราคาเดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในขนาด 15 กิโลกรัมซึ่งเป็นถังขนาดครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานถึง 23 บาทต่อถัง
เมื่อสอบถามพ่อค้าแม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่จะต้องใช้ก๊าซหุงต้มในการประกอบอาชีพ ยังยืนยันว่า แม้ราคาก๊าซหุงต้มจะขึ้น แต่ก็ไม่สามารถขยับราคาขายหน้าร้านได้ เพราะสงสารลูกค้า อีกทั้งถ้าปรับราคาอาหารตามสั่งก็ต้องปรับเป็นขั้นบันไดครั้งละ 5 บาท ซึ่งอาจจะไม่เป็นธรรมกับลูกค้า ดังนั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเองต้องแบกรับภาระที่แพงขึ้นไปก่อน บางรายก็มีวิธีปรับตัวในภาวะก๊าซหุงต้มแพงด้วยการตักข้าวหรือใส่วัตถุดิบในการปรุงอาหารลดลง เพื่อให้สามารถมีกำไรอยู่ได้ และลูกค้าไม่เดือดร้อน