พ่อเชื่อ ลูกสาวยังมีชีวิต หลังหายตัวปริศนานานกว่า 1 เดือน ล่าสุดตำรวจแจ้ง4 ข้อหา”ร้อยเอกศุภชัย” ขณะที่เจ้าตัวยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เมื่อวานนี้(12 ส.ค.)ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษอ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน ได้รับมอบตัวร้อยเอกศุภชัย ภาโส หรือ เหน่ง อายุ 30 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของน.ส.จุฑารัตน์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ข้าราชการตำแหน่ง ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อทำการสอบสวน
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหาด้วยกันคือ ฐาน (1) หน่วงเหนี่ยว หรือ กักขังผู้อื่น (2) ลักทรัพย์ของผู้อื่น (รถยนต์ ราคา 200,000 บาท) หรือ รับของโจร (3) ปลอมหรือใช้อ้างเอกสารปลอม (4) ให้เสียหาย ทําลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือ ทําให้สูญหายหรือ ไร้ประโยชน์ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โดยมี พ.ท.สุวิทย์ ขำคม นายทหารพระธรรมนูญ และ พ.ต.สุริยงค์ กุดเป่ง พร้อมด้วยนายทหารจาก ร.6 พัน 2 มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ใช้เวลารวมทั้งหมดกว่า 5 ชม. ทำการสอบปากคำ ร.อ.ศุภชัย ภายในห้องสอบสวนที่ห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปซึ่ง ร.อ.ศุภชัย ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ด้านพล.ต.ต.สุรเดช กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. น.ส.จุฑาภรณ์ ได้ขับรถเก๋ง หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้หายไป และไม่ได้กลับเข้าไปทำงานที่ อบต.ชำ ตามปกติ เมื่อถึงเวลาโรงเรียนเลิกก็ไม่ได้เดินทางไปรับลูกเหมือนเช่นทุกครั้งๆ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ร.อ.ศุภชัย และ น.ส.จุฑาภรณ์ อยู่ด้วยกัน และเมื่อวันที่ 3 ก.ค. เวลาประมาณ 15.00 น. ร.อ.ศุภชัย ได้โทรติดต่อกับนางสุชาวดี ปทุมอินทน์ ติดต่อเรื่องซื้อขายรถยนต์คันดังกล่าว
ทั้งนี้เชื่อว่า ร.อ.ศุภชัย ได้พา น.ส.จุฑาภรณ์ ไปโดยปราศจากเสรีภาพ และกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ต่อ น.ส.จุฑาภรณ์ การกระทำของ ร.อ.ศุภชัย หน่วงเหนี่ยว หรือ กักขังผู้อื่น พร้อมทั้งนำหลักฐานเล่มคู่มือรถคันดังกล่าว ไปขายให้กับนายประกรรษวัติ หรือ เสี่ย ตั้ม คณะพันธ์ พร้อมหลักฐานเล่มคู่มือรถคันดังกล่าวและหลักฐานการซื้อขายที่มีผู้ทำปลอมขึ้นมาทั้งฉบับ
พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวด้วยว่า การที่ ร.อ.ศุภชัย มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ถือว่าเป็นการแสดงความบริสุทธ์ใจที่จะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความเป็นจริงในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องเงินที่ น.ส.จุฑาภรณ์ โอนเงินไปเข้าบัญชีของ ร.อ.ศุภชัย นั้น ร.อ.ศุภชัย กล่าวอ้างว่า น.ส.จุฑาภรณ์ ยืมเงินของตนไปจึงได้โอนเงินมาใช้หนี้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ในการกล่าวอ้างได้ พนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป จากนั้นได้มอบตัว ร.อ.ศุภชัยให้กับนายทหารพระธรรมนูญและคณะไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า จากพยาน หลักฐานต่าง ๆ ตนเชื่อมั่นว่าลูกสาวของตนหายตัวไปในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยก่อนที่ น.ส.จุฑาภรณ์จะหายตัวไป ได้มีการขับรถมาวนเวียนในเขตบ้านภูมิซรอล จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยัง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถววัดสวนผึ้ง ภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี ซึ่งตนเชื่อว่าลูกสาวของตนน่าจะมีชีวิตอยู่ ขอฝากความหวังไว้ที่ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ให้ช่วยติดตามลูกสาวของตนให้พบโดยด่วนด้วย