ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ สั่งให้ปศุสัตว์แจ้งความดำเนินดคีเกษตรกรที่นำควายไปเลี้ยง หลังจากที่ได้รับบริจาค แต่กลับนำไปขายต่อ ทั้ง ๆ ที่เจ้าของไถ่ถอนชีวิตมาบริจาค พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน
ตามที่ปรากฏข่าว ตามสื่อมวลชนและสื่อในโซเชียลมีเดีย กรณีกระบือเพศเมีย บุญรอด ว่าไถ่ชีวิตควาย ฝากเลี้ยงกับปศุสัตว์ ไปเยี่ยมกลับบ่ายเบี่ยง พอขอคืนบอกต้องประมูลกับโรงฆ่าสัตว์ นั้น ล่าสุด จ.เพชรบูรณ์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวเบื้องต้นแล้วพบว่า เกษตรกร คือ นายวรพล แก้วแดง ได้กระทำความผิดจริง โดยได้นำกระบือไปจำหน่ายให้กับพ่อค้าจร โดยมิได้แจ้งให้กับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ซึ่งเป็นหน่วยที่ดูแลโครงการดังกล่าวรับทราบ นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบแล้ว ยังเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย ซึ่ง นายวรพล ยอมรับสารภาพ
ล่าสุด นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้ อ.เขาค้อ สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ในฐานะผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้ง เรื่องนี้กระทบต่อความรู้สึกของคนไทยโดยส่วนร่วม จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธานฯ ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฎภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ 19 ก.ค.60 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก มีการโพสต์เฟซบุ๊ก และเล่ารื่องราวของ “บุญรอด”ควายเพศเมีย ที่ได้รับการไถ่ชีวิตจากพ่อค้าที่กำลังจะนำส่งโรงฆ่าสัตว์ โดยนายรพีภัค ธราธรพิทักษ์ ได้รวบรวมเงินชาวบ้านกว่า 35,000 บาท ไถ่ชีวิต ก่อนนำไปฝากให้ปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ช่วยดูแล แต่เมื่อถามหากลับถูกบ่ายเบี่ยงตลอดมา จนคาดคั้นและทราบว่า ได้ให้เกษตรรายหนึ่งเลี้ยง ซึ่งเป็นคนขายอาหารอยู่ที่หน้าสำนักงานเกษตรอำเภอไปแล้ว หากต้องการจะขอคืนต้องนำเงินมาไถ่
ทางด้านปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ ระบุว่า ควายดังกล่าว ได้อยู่ในโครงการธนาคารโคกระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ และได้มอบให้กับเกษตรกร ชื่อ นายวรพล เกษตรกร ม.9 นำไปเลี้ยง ซึ่งต่อมา นายวรพล ได้นำไปขายให้กับพ่อค้าเร่ที่มารับซื้อ ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยอ้างว่า “เจ้าบุญรอด” มีอาการเลี้ยงไม่เชื่อง และเคยทำร้ายคนเลี้ยง ประกอบกับร่างกายไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถให้ลูกได้
ขอขอบคุณภาพข่าวบางส่วนจากเฟซบุ๊ก : Rapeepak Taratornpitak