ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” โดยวันนี้ ศาลอนุญาตให้ประกันตัว “เบนซ์” หนึ่งในจำเลยคดีดังกล่าว หลังจากทนายยื่นเรื่องประกันซึ่งได้ยื่นหลักทรัพย์ 9 หมื่นบาท ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ่อและครอบครัว “เบนซ์” เดินทางรับลูกสาวถึงหน้าเรือนจำกลางขอนแก่น โดยพ่อโผกอดและร้องไห้ด้วยความคิดถึงหลังจากที่ลูกสาวต้องอยู่ในเรือนจำนานถึง 90 วัน พร้อมกับบอกว่าให้ลูกเริ่มต้นชีวิตใหม่
ครอบครัวและญาติของ นางสาวจิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ “เบนซ์” เดินทางมารอรับลูกสาวบริเวณหน้าเรือนจำกลางขอนแก่น เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา หลังจากศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว หลังจาก “เบนซ์” ตกเป็นจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 1957/2560 ที่มีพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” กับพวกรวม 5 คน ในฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น หรือย้ายทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย , ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร , รับของโจรและเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย
ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.60 พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง “เบนซ์” เพียงข้อหาเดียว คือ ข้อหารับของโจร จากการที่กลุ่มผู้ต้องหานำเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขาย โดยมีการให้การว่า “เบนซ์” มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายด้วย ก่อนที่ “เบนซ์” จะถูกถูกควบคุมตัวมาขออำนาจศาลจังหวัดขอนแก่น ฝากขังผลัดแรกมาตั้งแต่ช่วงบ่าย วันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และศาลได้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวในวันนี้ รวมระยะเวลาที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำ 90 วัน
โดยทันทีที่ประตูเรือนจำเปิดออก น.ส.เบนซ์ เมื่อก้าวขาออกจากประตูเรือนจำ ได้ก้มลงกราบเท้า นายพิชัย พรหมคุณ บิดาของเบ๊นซ์ที่มารอรับพร้อมกับลูกชายและลูกสาวของเบ๊นซ์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่ “เบนซ์” และครอบครัวได้เจอหน้ากัน ก่อนที่ “เบนซ์” จะกล่าวทั้งน้ำตา ว่า เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ตนเองถูกคุมขังในเรือนจำ คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้ออกมาแล้ว แต่ด้วยความเชื่อว่า ถ้าตัวเองไม่ได้ทำผิดและเป็นผู้บริสุทธิ์ ท้ายที่สุดก็ต้องได้ออกมา ซึ่งรู้สึกดีใจมาก โดยหลังจากนี้ก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่
ขณะที่ นายพิชัย พรหมคุณ พ่อของ น.ส.เบนซ์ กล่าวว่า ตนอยากขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือครอบครัว เพราะตั้งแต่ที่เป็นคดีความ ครอบครัวต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เพราะ เบนซ์ถือเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งยังถูกสังคมมองว่าเป็นคนไม่ดี ซึ่งตนก็เชื่อมาโดยตลอดว่าลูกสาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุฆาตรกรรมในคดีนี้
สำหรับการได้รับการประกันตัวในครั้งนี้ เริ่มจากพี่สาวและครอบครัวของ “เบนซ์” เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม โดยนำพยานหลักฐานที่ยืนยันว่า เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆาตกรรม นางสาววริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ “น้องแอ๋ม” ซึ่งต่อมา กระทรวงยุติธรรม ประสานมายังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามในเรื่องดังกล่าว กระทั่งนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือระดับจังหวัดภายใต้การกำกับของกระทรวงยุติธรรม ที่ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ ยุติธรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาสังคม ที่ได้ร่วมกันติดตามตรวจสอบและพิจารณากลั่นกรองก่อนจะมีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
ด้าน นายนรินทร์ พรหมสาขา ณ สกลนคร ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การพิจารณาให้ความช่วยเหลือในกรณีของ “เบนซ์” ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลข้อเท็จจริงตั้งแต่วันแรกที่ได้รับการประสานจากกระทรวงยุติธรรม โดยมีการสืบเสาะหาพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบว่า การที่ครอบครัวของผู้ร้อง เข้าขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรมนั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยจากการลงพื้นที่มีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ผู้ร้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ที่สำคัญคือ “เบนซ์” ไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี นอกจากนี้ ก่อนที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดจะเข้ามาช่วยเหลือ ได้มีการทำเงื่อนไขเพื่อเป็นหลักประกันว่า เมื่อได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะไม่ทำผิดเงื่อนไข คือ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ไม่ไปข่มขู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ โดยเงื่อนไขดังกล่าว มีข้าราชการระดับสูงเป็นผู้ค้ำประกันด้วย ซึ่งทางยุติธรรมจังหวัดได้พิจารณาทั้งในแง่ของข้อกฎหมาย สิทธิ และแง่ของสังคมอย่างละเอียด เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ