ภัยหนาว! หนุ่มหาปลา เป็นตะคริว จมน้ำดับ ด้านกรมอุตุฯ แจ้งเตือน สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีทั้งฝนฟ้าคะนองและอากาศเย็นลง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนัก
จ.นครพนม อากาศเริ่มเย็นลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเช้า มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 18 – 19 องศาเซลเซียส ทำให้มีประชาชน นักท่องเที่ยว ต่างเดินทางมาพักผ่อน สัมผัสอากาศหนาว และชมความสวยงามทางธรรมชาติของริมสองฝั่งโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งจะเป็นจุดท่องเที่ยว ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะสามารถมองเห็นเทือกเขาเป็นแนวยาวตัดขอบฟ้า ทางฝั่งประเทศลาว โดยเฉพาะช่วงเช้า กับช่วงเย็นจะมีความสวยงามมาก ทำให้ ช่วงนี้โรงแรมที่พัก ถูกจองเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยเฉพาะใกล้วันหยุดเสาร์อาทิตย์
กระนั้นบริเวณหนองน้ำสาธารณะหมู่บ้าน ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม พบศพผู้จมน้ำเสียชีวิต เป็นชายประกอบอาชีพหาปลา เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ออกมาหาปลา ตั้งแต่เช้าประมาณ 4.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็น จนกระทั่งญาติตามหาจนพบว่า จมน้ำเสียชีวิตแล้ว ด้านแพทย์สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากสภาพอากาศเย็นในช่วงเช้าทำให้ผู้ตายเกิดตะคริว จมน้ำเสียชีวิต พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชน ระมัดระวัง หมั่นดูแลรักษาสุขภาพในช่วงนี้ ควรงดแช่น้ำ ออกหาปลาในช่วงเช้าที่สภาพอากาศหนาว โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ควรดูแลรักษาสุขภาพ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในลุ่มน้ำยมของ 4 อำเภอ จ. พิจิตร ซึ่งประกอบด้วย อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง อ.โพทะเล ยังไม่คลี่คลายคาดว่าคงต้องใช้เวลาถึงสิ้นเดือนนี้ จึงจะเข้าสู่สภาวะปกติ สำหรับโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมและยังไม่สามารถเปิดเรียน ได้ คือ โรงเรียนหนองไผ่-มาบชุมแสง ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.บางคลาน อ.โพทะเล น้ำยังคงท่วมสูงอยู่ในโรงเรียนเกือบ 1 เมตร ซึ่งทุกฝ่ายกำลังระดมเครื่องสูบน้ำไปช่วยสูบน้ำออกจากโรงเรียนแล้ว คาดว่าภายในวันจันทร์ที่ 20 พ.ย. 60 จะสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้อย่างปกติ
ขณะที่เขื่อนปัตตานีระบายน้ำออกจากเขื่อน โดยเปิดประตูระบายน้ำถึง 7 บาน ส่งผลให้ถนนเชื่อมระหว่าง ตำบลตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา กับ บ้านคูระ ต.แม่ลาน จ.ปัตตานี มีน้ำท่วมบนท้องถนน อันเนื่องมาจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ยะลา ทำให้เกิดน้ำท่วมในบางอำเภอ และมวลน้ำมหาศาลจากพื้นที่ยะลา และตอนบน ได้ไหลลงสู่ แม่น้ำปัตตานี และผ่านเขื่อนทดน้ำปัตตานี พยายามกักเก็บน้ำก่อนระบายสู่แม่น้ำปัตตานี และไหลลงสู่ปลายน้ำทะเล ที่เมืองปัตตานีโดยอ่างเก็บน้ำไว้รอบรับ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนต้องทำการระบายน้ำออก
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนว่า ในช่วงวันที่ 18-21 พ.ย. 60 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นลง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง